คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แสดงความชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสามารถช่วยพรรคพลังประชารัฐหาเสียงได้ โดยระบุว่า บุคคลที่จะเข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ต้องมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะสถานะการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งกกต.จะต้องทำให้เกิดความชัดเจน
ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจว่าการตีความกฎหมาย สิ่งใดที่ได้ประโยชน์ก็สามารถทำได้ แต่อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ก็จะตีความว่าไม่สามารถทำได้ เช่น การขึ้นเวทีดีเบต ดังนั้นหาก กกต.เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์สามารถหาเสียงได้ พล.อ.ประยุทธ์จะต้องหยุดการไปตรวจราชการลักษณะแฝงการหาเสียง และควรใช้เวลานอกราชการ หรือลางานไปหาเสียงอย่างตรงไปตรงมา
ส่วนการตีความว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นเพียงองค์กรชั่วคราวนั้น คุณหญิงสุดารัตน์เห็นว่า ระยะเวลาการอยู่ในอำนาจของ คสช. ยาวนานกว่าตัวแทนที่มาจากประชาชน จึงเป็นเรื่องของการตีความกฎหมายว่าอะไรที่ได้ประโยชน์ ก็จะตีความเข้าตัวเอง ซึ่งประชาชนมองออกว่าไม่เป็นธรรม และเชื่อว่าจะเป็นผลเสียกับผู้ปฏิบัติเอง
เมื่อถามถึงการทำหน้าที่คัดเลือก ส.ว. ของ พล.อ.ประวิตร แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ แต่เชื่อว่า เป็นสิ่งที่ประชาชนมองเห็น พล.อ.ประวิตร จะเลือกคนที่ตนเองสั่งได้ จึงอยากให้สังคมเป็นคนพิจารณา ว่าคนอย่างพล.อ.ประวิตร ที่เป็นรองหัวหน้าคสช. และมาเลือกส.ว.250 คน กลับไปเลือกพล.อ.ประยุทธ์ มีความเหมาะสมหรือไม่