คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ระบุถึงกระแสข่าวการสรรหา ส.ว. 400 คนมีรายชื่อสายทหารที่มีความใกล้ชิดกับคณะรักษาความสงบ (คสช.) และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ว่า รายชื่อทั้งหมดไม่เหนือความคาดหมายเพราะได้คนใกล้ชิดไปทำหน้าที่ทั้งหมด ซึ่งหน้าที่ของ ส.ว. คือไปยกมือเลือกนายกฯ และบังเอิญหัวหน้า คสช.เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ การกระทำดังกล่าวนั้น คนไทยไม่ได้โง่ จะมาใช้อำนาจรัฐเอารัดเอาเปรียบ คนไทยทั้งประเทศมองเห็นและจะตัดสินในวันที่ 24 มี.ค. นี้ว่านักการเมืองคนไหนจะอยู่หรือจะไป
“พรรคเพื่อไทยรู้อยู่แล้ว ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่ได้เดินสู่สนามเลือกตั้งตรงไปตรงมา บริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะเป็นการเลือกตั้งที่เอารัดเอาเปรียบที่สุด ในกระเป๋าเรายังไม่ตุง แต่ในกระเป๋าลุงมี 250 ส.ว.แล้ว พรรคเพื่อไทยรู้ตั้งแต่ต้น แต่ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดบอกให้ประชาชนรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น และให้ประชาชนตัดสินใจเองจากผลสะท้อนตลอด 4 ปีกว่าที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ ประชาชนมีความสุขหรือความทุกข์ ถ้าประชาชนพอใจต้องให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อ แต่หากไม่พอใจแล้วเลือกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งให้ถล่มทลาย ส.ว.250 คน ไม่ควรฝืนความรู้สึกประชาชน แต่ควรฟังเสียงประชาชน ถึงแม้จะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งประชาชนแต่ได้กินเงินเดือนประชาชน ดังนั้นอย่าถึงขนาดทรยศประชาชน และฝืนเจตนารมณ์ประชาชน”
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรรคเพื่อไทยห่วงทุกเรื่อง เพราะถูกเอาเปรียบตั้งแต่ก่อนจะเข้าสู่สนาม รวมถึงวันนี้มีการใช้อำนาจรัฐซื้อเสียง ร้องเรียนไปเรื่องก็เงียบ และห่วงความเที่ยงธรรมขององค์กรกลางและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ใช้อำนาจข่มขู่ผู้สมัครและผู้สนับสนุนและห่วงการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. จะบริสุทธิ์หรือไม่จะมีการโกงเลือกตั้งหรือไม่ โดยเฉพาะการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มี.ค. กกต.จะเก็บบัตรเลือกตั้งด้วยวิธีไหน จะนับคะแนนอย่างไร ซึ่งตนเองได้รับรายงานว่าจะนำบัตรเลือกตั้งทุกหน่วยมากองรวมกันและนับคะแนน ซึ่งเห็นว่าไม่สมควรจะทำแบบนั้น แต่ควรนับคะแนนเปิดเผยเหมือนการนับคะแนนเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา หากนำบัตรเลือกตั้งทุกหน่วยเลือกตั้งนำมากองรวมกัน พรรคเพื่อไทยกลัวว่าจะมีการเปลี่ยนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า