เศรษฐกิจ
กสทช.แจงแนวทางคืนช่องดิจิทัล คาดได้เงินคืนไม่เกิน 55% เร็วสุดเดือน ส.ค.
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หารือร่วมกับผู้ประกอบการทีวีดีจิตอลทั้ง 22 ช่อง เพื่อทำความเข้าใจในหลักเกณฑ์การคืนใบอนุญาตที่ประกาศเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ระบุว่า ผู้ประกอบการที่มีความประสงค์คืนช่องจะต้องแจ้งต่อ กสทช. ภายในวันที่ 10 พ.ค.นี้ และให้ส่งข้อมูลทางบัญชีภายใน 60 วัน ก่อนที่ กสทช.จะมีการสรุปว่าจะให้ยุติการออกอากาศเมื่อใด แต่เมื่อแสดงความจำนงที่จะคืนช่องแล้ว ไม่สามารถยกเลิกได้ หรือหากไม่ส่งข้อมูลรายละเอียดงบการเงินเข้ามาก็จะมีมาตรการลงโทษต่อไป
ส่วนแนวทางการคำนวณเงินคืน จะใช้สูตรของเงินประมูลที่จ่ายมาแล้วในงวดที่ 1-4 คูณด้วยจำนวนอายุใบอนุญาตที่เหลืออยู่ และหารด้วยอายุของใบอนุญาต ทั้งหมด 15 ปี ซึ่งก็จะเท่ากับร้อยละ 66 ของเงินที่ได้คืน จากนั้นให้นำมาลบกับเงินค่าสนับสนุนค่าเช่าโครงข่าย หรือ MUX และค่า Must Carry ที่กสทช. เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้
โดยในส่วนของช่องทีวีที่ยังจ่ายเงินงวดที่ 4 ไม่ครบ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเติม แต่จะคำนวณยอดที่เหลือลบกับเงินที่จะต้องจ่ายคืนให้ ซึ่งในกลุ่มที่ผลประกอบการขาดทุนจะได้รับเต็มจำนวนจากสูตรที่ใช้คำนวนในเบื้องต้น แต่ในกลุ่มที่ผลประกอบการมีกำไรและจะคืนช่องจะต้องนำกำไรที่ได้ของปีที่มีกำไรมาลบกับเงินที่คำนวนเบื้องต้นด้วย ดังนั้นทีวีที่จะขอคืนใบอนุญาตจะได้เงินคืนไม่เกินร้อยละ 55 ของเงินประมูลที่จ่ายไป
เลขาธิการ กสทช. ยืนยันว่า ผู้ประกอบการทุกรายต้องมายื่นความประสงค์คืนใบอนุญาตคลื่นความถี่ไม่เกินวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ และต้องส่งเอกสารให้ กสทช.พิจารณาไม่เกิน 60 วัน หลังจากนั้น สำนักงาน กสทช. จะยื่นเอกสารเหล่านั้นให้คณะกรรมการฯ เพื่อกำหนดมาตรการเยียวยาให้กับประชาชน ซึ่งต้องมีการทำประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบว่า ช่องดังกล่าวจะปิดตัวลง
เมื่อผู้ประกอบการส่งแผนให้ กสทช. รับทราบแล้ว อาจใช้เวลา 30 วัน หรือ 45 วัน หรือ 60 วันขึ้นอยู่กับแผนที่ต้องส่งให้ กสทช. อนุมัติ ดังนั้นวันสิ้นสุดการออกอากาศของผู้ประกอบการแต่ละรายจึงต่างกัน คือถ้าใครทำแผนมาดีก็อาจได้กำหนดวันยุติออกอากาศได้ไว
ส่วนประเด็นเรื่องเงินคืน เมื่อยุติออกอากาศ กสทช.จะจ่ายเงินให้กับเอกชนทันทีหลังวันยุติการให้บริการ โดยจะนำเงินจากกองทุน กสทช. มาจ่ายให้ ส่วนการคืนสิทธิประโยชน์ ก็นับจากวันที่ยุติการให้บริการ หยุดวันไหน ก็นับถือวันนั้น
"หากเดินตามกระบวนการนี้ ก็คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. เป็นต้นไป" นายฐากร กล่าว
ดังนั้น กรอบระยะเวลาที่จะได้เงินคืน น่าจะภายใน 90 วัน เร็วสุดคือในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งแต่ละช่องจะได้เงินคืนไม่พร้อมกัน เพราะขึ้นอยู่กับการส่งข้อมูลรายได้ และการทำแผนเยียวยาผู้บริโภคที่อาจจะต้องกำหนด 30 ถึง 60 วัน เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลคืนใบอนุญาตมากกว่า 3 ช่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
