นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ 'เจ้ติ๋ม' ไทยทีวี เปิดบ้านย่านลาดพร้าว 101 แถลงข่าวกรณี คสช. ประกาศใช้มาตรา 44 แก้ไขการประกอบกิจการโทรทัศน์ โดยกำหนดให้ผู้ที่ต้องการคืนใบอนุญาตจะต้องยื่นแสดงความจำนงค์ต่อ กสทช. ภายในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ แต่ในส่วนของมาตรการเยียวยายังไม่ได้กำหนด เนื่องจากต้องรอแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเยียวยาก่อน ถือเป็นการทำงานช้า และไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ประกอบการไม่มั่นใจว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร

โดยก่อนจะมีคำสั่งดังกล่าวทางกลุ่มผู้ประกอบการได้มีการหารือร่วมกันว่าจะมีการคืนใบอนุญาตถึง 5 ช่อง แต่ภายหลังที่มีคำสั่งออกมา และไม่มีความชัดเจนจาก กสทช. จะมีผู้ประกอบการคืนใบอนุญาตเพียง 3 ช่อง เพราะยังมีความกังวลในสูตรการเยียวยาที่จะเกิดขึ้น ที่คาดว่าจะได้เงินคืนช้า หรือนานถึงเดือนกันยายนปี 2562 ในขณะที่ผู้ประกอบการต้องใช้เงินในการจ่ายเยียวยาลูกจ้าง คืนเงินเจ้าหนี้ หรือไปทำธุรกิจอื่น

เจ้ติ๋ม ยืนยันว่า ไทยทีวี ไม่ได้จะฉวยโอกาสรับการเยียวยาตามมาตรา 44 เนื่องจากทางบริษัทได้บอกเลิกสัญญาใบอนุญาตทั้ง 2 ช่องแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2558 จึงถือว่าไม่เข้าเงื่อนไขที่ทาง กสทช. มีการระบุไว้ในคำสั่งว่าให้ใช้กับผู้ถือใบอนุญาตเท่านั้น

ทั้งนี้ ในส่วนของไทยทีวีกับ กสทช. กระบวนการยังอยู่ในชั้นศาล โดยทางบริษัทได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 เรียกเงินคืนและค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 1,134 ล้านบาท หลังศาลศาลปกครองกลางพิพากษาว่า กสทช. ผิดสัญญาการดำเนินการในการเปลี่ยนผ่านระบบรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์เป็นระบบดิจิทัลเกิดความล่าช้าและไม่เป็นไปตามแผนงาน โดยบริษัทยังเตรียมรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การเยียวยาที่ กสทช.จะออออกมาเพิ่ม เพื่อให้ศาลใช้ในการพิจารณา คาดหวังว่าผลตัดสินน่าจะออกมาภายในปีหน้า ซึ่งทางบริษัทฯ สามารถรอได้