ไม่พบผลการค้นหา
กสทช. แถลงทำความเข้าใจการใช้สิทธิ์ตาม มาตรา 44 ให้สามารถคืนช่องทีวีดิจิทัลได้ และขยายเวลาชำระเงินประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ชี้แจงคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่4/2562 มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เปิดให้ช่องทีวีดิจิทัลขอคืนใบอนุญาตได้ และยกเว้นการชำระเงินค่าประมูล งวดที่ 5 และ 6 ส่วนรายใดที่ชำระแล้วขอคืนได้ ส่วนรายใดที่ยังชำระงวดที่ 4 ไม่ครบให้นำเงินมาชำระให้ครบภายในเดือนพฤษภาคม

กสทช แถลง

ส่วนค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิทัล หรือ MUX กสทช.จะช่วยออกเงินค่าใช้จ่ายให้ โดยจะนำเงินไปชำระให้ผู้ประกอบการโครงข่าย รวมเป็นเงินปีละ 1,960 ล้านบาท จนสิ้นสุดอายุใบอนุญาต

ด้านผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่ประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ไปล่าสุดจะได้รับความช่วยเหลือด้วยการยืดอายุการชำระเงิน จาก 4 งวดเป็น 10 งวด แต่มีเงื่อนไขคือต้องเข้าร่วมประมูลคลื่น 700 เมกะเฮิร์ตซ์ โดยผู้ประกอบทั้ง 2 ส่วน หากใช้สิทธิ์จะต้องแจ้งต่อสำนักงาน กสทช. ภายใน 30 วันนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ หรือก่อนวันที่ 10 พฤษภาคม 2562


"เราดำเนินการทุกขั้นตอนในขณะนี้ ยึดผลประโยชน์ของประชาชนกับประเทศชาติเป็นหลัก ขอให้เรามองมิติของ 5จี ที่จะขับเคลื่อนประเทศ" นายฐากร กล่าว


ข้อกังวลใจของฝ่ายผู้ประกอบการ

ซึ่งในการหารือร่วมกันวันนี้ทางด้านผู้ประกอบการโทรคมนาคม ยังมีข้อกังวลในประเด็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมประมูลคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ ที่จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนปีนี้ หากจะใช้สิทธิ์ ซึ่งได้มีการกำหนดระยะเวลาสั้นเกินไปเพราะผู้ประกอบการยังไม่เห็นเงื่อนไขการประมูลคลื่นดังกล่าว โดยนาฐากร ระบุว่า ผู้ประกอบการสามารถแจ้งใช้สิทธิ์ได้ก่อน หากไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 700 กลับเข้าสู่เงื่อนไขเดิม

กสทช แถลง

ขณะที่ผู้ประกอบการด้านโทรทัศน์ที่เป็นเจ้าของโครงข่าย ยังมีข้อกังวลในประเด็นกรณีหากมีการคืนช่องจะกระทบผู้ให้บริการโครงข่าย จะมีแนวทางเยียวยาโครงข่ายอย่างไร นายฐากร ระบุว่า หากช่องทีวีเหลือน้อยลง จะเยียวยาให้ผู้ประกอบการโครงข่าย โดยนำคลื่นกลับไปประมูลใหม่ หรือใช้ด้านโทรคมนาคม และต้องเยียวยาจากเงินที่เกิดจากการประมูลดังกล่าว 

ทั้งนี้ กสทช. ได้เตรียมการแต่งตั้งคณะทำงานเตรียมความพร้อมรองรับใช้สิทธิ์ของผู้ประกอบการทั้ง 2 ส่วน ตามคำสั่งดังกล่าว โดยแบ่งเป็นด้านโทรคมนาคม 4 ชุด ด้านโทรทัศน์ 3 ชุด และการสร้างการรับรู้ต่อสาธารณะ 1 ชุด