สถิติของเวบไซต์ Gun Violence Archive ระบุว่า ภายใน 5 เดือนแรกของปี 2562 เกิดเหตุการณ์บุกยิง หรือ การกราดยิงในสหรัฐอเมริกาแล้ว 150 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิตจากกระสุนปืนจำนวน 160 คน มีผู้บาดเจ็บอีกเกือบ 600 คน ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดที่รัฐเวอร์จิเนีย (ในช่วงคืนวันที่ 31 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น) ที่คนร้ายกราดยิงเจ้าหน้าที่และประชาชนในเมืองเวอร์จิเนีย บีช ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 13 คน รวมไปถึงคนร้ายที่เสียชีวิตจากการปะทะกับตำรวจ
เหตุการณที่เกิดขึ้นที่เวอร์จิเนีย บีชนี้นับเป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตมาก นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา แต่รายงานของ Gun Violence Archive พบว่า ทั่วทั้งสหรัฐฯ จะเกิดเหตุการณ์กราดยิง หรือการบุกยิงประชาชนเฉลี่ยแล้วอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
อีกทั้ง เหตุการณ์กราดยิงใน 5 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 พบว่ามีการบุกยิงประชาชนเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2561 มีเหตุการณ์กราดยิงใน 5 เดือนแรกทั้งหมด 108 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิต 142 คน
CNN รายงานว่านับตั้งแต่ปี 2492 เหตุการณ์กราดยิงที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ในคอนเสิร์ตที่มัณฑเลย์ เบย์ รีสอร์ตและคาสิโนในลาสเวกัส เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสีย 58 คน และบาดเจ็บกว่า อีก 500 คน แต่สำหรับเหตุการณ์ที่ทำให้คนอเมริกันตื่นตัวและออกมาเรียกร้องให้มีการจำกัดอาวุธปืนนับแสนคน คือ เหตุการณ์คนร้ายบุกกราดยิงครูและนักเรียนที่พาร์คแลนด์ รัฐฟลอริด้า ซึ่งเหตุการณ์นั้นมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 17 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน
บทวิเคราะห์ของ 'เจย์ ปาลินี' ใน CNN ระบุว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการควบคุมปืน เหตุการณ์กราดยิง และจำนวนผู้เสียชีวิตจากการถูกยิงในสหรัฐฯ จะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป ซึ่งเรื่องการควบคุมอาวุธปืนนั้นปาลินีกล่าวว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากมีจำนวนเงินและการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยในแต่ละปี สมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติของสหรัฐฯ NRA จะได้รับเงินเข้าสมาคมจากการขายอาวุธปืนปีละหลายร้อยดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินจำนวนดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้ในทางการเมืองด้วยเช่นกัน
เมื่อปี 2561 'เวย์น ลาแปร์' รองประธาน NRA ได้กล่าวโจมตีพรรคเดโมแครตว่า ฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยม ในมลรัฐฟลอริดา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย เพื่อละเมิดสิทธิการครอบครองปืนในสหรัฐฯ และบอกว่าอีกฝ่ายเป็นพวกเกลียด NRA และเกลียดอิสรภาพส่วนบุคคล จึงพยายามที่จะล้มล้างมาตรา 2 ในรัฐธรรมนูญที่ระบุชัดเจนว่าคนอเมริกันมีสิทธิที่จะครอบครองอาวุธปืนได้
พร้อมกับสนับสนุนแนวคิดของ 'โดนัลด์ ทรัมป์' ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยว่าคุณครูภายในโรงเรียนของสหรัฐฯ ควรจะได้รับการฝึกฝนการใช้อาวุธปืนและสามารถเก็บปืนไว้ในโรงเรียนได้ เพื่อใช้ต่อสู้กับคนร้ายที่ก่อเหตุกราดยิงในโรงเรียน และ NRA พร้อมส่งผู้เชี่ยวชาญไปอบรมให้ครูตามโรงเรียนต่างๆ
การอนุญาตให้สามารถซื้อขายและครอบครองปืนได้อย่างถูกกฎหมายโดยไม่มีเงื่อนไขของสังคมอเมริกันนั้นมันส่งผลให้ 'ปืน' เปรียบเสมือนศาสนาหนึ่งของสังคมอเมริกันไปแล้วหรือไม่? ซึ่งแม้แต่ผู้ที่เคร่งครัดในคริสเตียนก็ยังสามารถทำตัวเป็นพระเจ้าที่มอบความตายให้เด็ก หรือ ประชาชนที่อยู่รอบข้างได้โดยปริยาย
ข่าวที่เกี่ยวข่้อง