วันที่ 3 ต.ค. 2565 ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ถึงสถานการณ์อุทกภัย ว่า จะบอกไม่ห่วงก็ไม่ได้ โดยวันนี้ตนมาติดตามสถานการณ์และรับฟังการคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าเรื่องของศูนย์บรรเทาสาธรณภัยและมาให้กำลังใจ ในฐานนะรัฐมนตรีและรัฐบาลก็มีความห่วงใย แต่อย่างไรก็ตามขอบคุณรองนายกรัฐมนตรี ที่ไปตรวจเยี่ยมด้วย ซึ่งพรุ่งนี้ (4 ต.ค.) ตนก็จะไปดูสถานการณ์หน้างานและให้กำลังใจที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ขอนแก่น พร้อมขอชื่นชมการทำงานที่ผ่านมาในส่วนประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมกันแก้ปัญหาน้ำท่วมทุกภาคของประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่สำคัญสุดคือการคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า ที่ต้องมีแผนเผชิญเหตุและเตรียมความพร้อมฝนที่จะเข้ามาอีก ซึ่งรัฐบาลต้องเตรียมมาตรการและงบประมาณเรื่องการเยียวยาให้เร็วที่สุด พร้อมย้ำว่าฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่หน้างานทั้งหมดตำรวจ ทหาร ภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งนี่แหละคือประเทศไทยที่ช่วยกันบรรเทาความเดือดร้อนและให้ขวัญกำลังใจซึ่งกันและกัน
เมื่อถามว่า เตรียมแผนการลงพื้นที่หรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนได้เตรียมแผนไว้แล้ว ซึ่งต้องดูสถานการณ์ เพราะแผนก็คือแผน ถ้ายังไม่ไปก็คือแผน ถัดจากนั้นคือสภาพอากาศมากน้อยเพียงใดไปจะเป็นภาระหรือไม่ เพราะไปก็ไม่อยากเป็นภาระใครทั้งสิ้น
เมื่อถามต่อว่า กรณีที่สั่งห้ามไม่ให้มีกองเชียร์ขณะลงพื้นที่ แต่ถ้าประชาชนอยากไปให้กำลังใจจะทำอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็รู้ว่าหลายคนให้กำลังใจตนอยู่แล้ว ขอบคุณมากๆเลย อย่าเป็นภาระเลยแล้วกัน ยังไงตราบใดที่ตนทำหน้าที่อยู่ก็จะทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามย้ำว่า อนาคตทางการเมืองจะเป็นยังไง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "อนาคตคืออนาคตนะจ๊ะ"
เมื่อพยายามถามถึงการปรับ ครม.และจะอยู่ครบเทอมไหมหรือจะยุบสภาหลังเอเปค นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนเดินขึ้นรถทันที
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นรถได้เปิดกระจกและยิ้ม แต่ไม่มีการตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่พยายามสอบถามประเด็นต่างๆ โดยวันนี้ไม่มีท่าทีฉุนเฉียวหนีแต่อย่างใด