นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังพบปะกับนายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ว่า เป็นการมาพบปะกันตามที่นัดไว้ล่วงหน้านานแล้ว หลังเข้ารับตำแหน่งใหม่ เป็นแค่จังหวะเวลาโดยบังเอิญไม่ได้ตั้งใจมาหารือกรณีสหรัฐอเมริกาการตัดสิทธิพิเศษภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP
สำหรับการพูดคุยกับนายไมเคิล เรื่องสหรัฐฯ ประกาศตัดสิทธิ GSP ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด ยังมีเวลาเจรจากัน โดยในการประชุม World Pacific Forum ในการประชุม Asean Summit จะมีที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และนักลงทุนชาวอเมริกันมาร่วมพูดคุยกับประเทศไทยและที่ประชุมอีอีซี
พร้อมกันนี้ นายสมคิด ระบุว่า การตัดสิทธิ์ GSP เป็นมูลค่าไม่มาก สิ่งเหล่านี้น่าจะคุยกันได้ เนื่องจากไทยและสหรัฐอเมริกา เป็นมิตรกันมานาน น่าจะใช้ช่วงเวลาที่ผู้ใหญ่ของสหรัฐอเมริกามาประเทศไทยหารือกับนายกรัฐมนตรีได้
อย่างไรก็ตาม นายสมคิดเผยว่าการพูดคุยวันนี้บรรยากาศดี เรื่องที่สหรัฐฯ ร้องขอไทยก็พยายามทำเต็มที่ ดังนั้นการเจรจาก็ควรค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรหยิบยกขึ้นมาเพื่อขอสิทธิ หรือคุยเรื่องที่เป็นชิ้นๆ แต่ควรใช้เวลานี้พูดคุยเรื่องยุทธศาสตร์ความร่วมกันมือกันในอนาคต เช่น ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี- เจ้าพระยา-แม่โขง หรือ แอคเมคส์ (ACMECS) เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเองก็สนใจเรื่องลุ่มแน่น้ำโขงเช่นเดียวกับจีนและญี่ปุ่น
นอกเหนือจากสิ่งที่เคยขอเจรจากันดั้งเดิม อยากให้มองไปไกลๆ บนพื้นฐานของมิตรภาพ ส่วนเรื่อง GSP ค่อยเจรจากันไป เป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์และอยู่ที่การสื่อความไปถึงผู้ใหญ่ทางสหรัฐฯ เนื่องจากเราเป็นมิตรที่ดี และผู้ประกอบการไทยเองก็สนใจไปลงทุนที่สหรัฐอเมริกา เช่น กลุ่ม ปตท.
ทั้งนี้ นายสมคิดยังกล่าวต่ออีกว่า อุปทูตสหรัฐฯ มีความเป็นมิตรสูง วันนี้พูดกันเรื่องอนาคต ส่วนเรื่องเจรจา GSP ก็เจรจากันไป หารือก็หารือกันไป อย่างไรก็ตามตนไม่ทราบว่าเรื่องแรงงานไทยเป็นเหตุผลในการตัดสิทธิหรือไม่ แต่ไทยเองก็ได้รับสิทธิ GSP มานานแล้ว ถือเป็นความช่วยเหลือดั้งเดิม ไทยควรจะไม่ได้นานแล้ว เพราะตอนนี้เศรษฐกิจก็พัฒนามานานแล้ว แต่การเป็นเพื่อนเก่ากันก็เก็บไว้ก่อน
ส่วนกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าให้เจรจาอย่างคู่ค้า ที่เท่าเทียมมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่ลูกไล่สหรัฐฯ นายสมคิด ให้ความเห็นว่า เราไม่ควรเอาสิ่งเหล่านี้ มาเป็นประเด็นทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ เป็นประเทศใหญ่ การสร้างสัมพันธ์ได้ถือเป็นสิ่งที่ดี สิ่งใดที่ไม่เป็นธรรมก็ต้องเจรจา ว่าเราทำเต็มที่แล้ว ต้องเกื้อกูลกัน อะไรก็แล้วแต่ต้องเป็นเหตุเป็นผล ซึ่งทีมงานของสหรัฐฯ ก็หวังได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :