พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการรับฟังตัวแทน Start Up ในหัวข้อ ร่วมกำหนดอนาคตประเทศจากตัวแทนผู้ประกอบการ โดยระบุ ถ้าจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยในทางที่ดีขึ้นจะต้องระดมสรรพกำลังในทุกด้าน เชื่อว่าพลังของคนรุ่นใหม่จะต้องเข้มแข็งกว่าคนรุ่นเก่า เพราะได้เรียนรู้สะสมประสบการณ์ โดยเฉพาะในช่วงของโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ซึ่งในเรื่องเหล่านี้ รัฐบาลพยายามสนับสนุนและส่งเสริมมาโดยตลอด แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา ต้องเห็นอกเห็นใจบ้าง เพราะบางครั้งมีงานเยอะ ยืนยันไม่ได้ต้องการปิดกั้นใคร
นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า ทำอย่างไรให้เกิดการพัฒนานำไปสู่การผลิตการสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยของเราให้มีความก้าวหน้า ซึ่งประเทศมีแผนยุทธศาสตร์ชาติ หรือแผนแม่บทใน 20 กระทรวง ต้องศึกษาในเรื่องดังกล่าวเพื่อดึงศักยภาพของตนเองเข้าไปอยู่ในเรื่องเหล่านี้ เช่นการเดินหน้าเรื่องของ aec ความเชื่อมโยงต่างๆ กับประเทศต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริม Start Up จึงต้องมีการเรียนรู้ "ขออย่าเอาเรื่องเก่าๆที่ไม่เป็นเรื่องให้กลายเป็นเรื่อง"
ทั้งนี้ การทำธุรกิจอาจต้องคำนึงถึงต้นทางโดยเฉพาะประชาชน เกษตรกร ว่าจะช่วยธุรกิจ startup อำนวยความสะดวกให้คนเหล่านี้อย่างไร ซึ่งจะเป็นกลไกช่วยประเทศยกระดับขึ้นไปสู่การมีรายได้สูง รัฐมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ธุรกิจใหม่มีความก้าวหน้า เมื่อน้องเล็กแข็งแรงพี่คนกลางก็จะแข็งแรง และพี่คนโตก็จะเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งรัฐมีหน้าที่เข้าไปช่วยดูแล
นอกจากนี้จะต้องเร่งสร้างการเรียนรู้ของคนในชาติให้มากขึ้น มองคนรุ่นใหม่เชื่อง่าย เพราะคิดเร็วทำเร็ว มีฐานข้อมูลมีเป้าหมายที่จะนำไปสู่การลงทุน ต่อ ยอดไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งยั่งยืน โดยอาศัยคนจากกลุ่มของนักรบทางธุรกิจใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อ Start Up จะเป็นเวทีสำคัญในการสร้างสรรค์ธุรกิจ จะทำอะไร จะเดินหน้าอย่างไรต้องคิดให้ดี คิดให้รอบคอบ อย่างมีเหตุมีผล หาข้อมูล หาวิธีการแก้ไข โดยคิดอย่างมีเหตุผลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันสำคัญ
นายกรัฐมนตรี เห็นว่า 4 ปีที่ผ่านมาทุ่มเทกับการทำงาน สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง แต่คือความตั้งใจของการทำงานให้กับประเทศ ขอทุกอย่างเริ่มต้นด้วยความมั่นคง เดินทางไปมาสัญจรได้ นี่คือจุดเริ่มต้นสำคัญ ของการทำธุรกิจ เมื่อทุกคนร่วมมือ รัฐพร้อมให้ความสนับสนุน ถ้าทุกฝ่ายช่วยกันจะเดินไปข้างหน้าได้
นายกรัฐมนตรี ตั้งคำถามด้วยว่า ที่ผ่านมา มีใครเดือดร้อนจาก ม.44 หรือไม่ "ไม่มีชาวบ้านเดือดร้อน มีแต่รัฐจะช่วยเหลือพวกท่าน"
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ขออย่ากังวลเรื่องการเสียภาษี เพราะรัฐบาลมีหลักการ การเรียกเก็บภาษี ก็เป็นคนละเรื่องกับการขับเคลื่อนทางธุรกิจ อย่าโยง ทุกอย่างมาเป็นเรื่องเดียวกัน "ถ้าพวกท่านรายได้จากการเก็บภาษีไม่ถึงก็ไม่ต้องเสียภาษี" วันนี้รัฐบาลต้องแก้ปัญหาทั้งหมด รวมถึง BOI ต้องลงไปดู เพื่อให้ทุกอย่างมีความสอดคล้อง โดยเฉพาะธุรกิจ sme , ธุรกิจ startup , ธุรกิจขนาดใหญ่หรือ ธุรกิจข้ามชาติ หรือธุรกิจ รายเก่า รายใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า แม้รัฐบาลจะมีการลงทุนมหาศาล มีภาระหนี้ แต่เป็นภาระหนี้ที่มีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะนำไปสู่การกระจายรายได้ ในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับประเทศ "มาต่อต้านในทุกด้าน ประเทศจะเดินไปได้ไหมล่ะ" พร้อมอวยพรทุกคนให้มีความสุขขอหลานๆ "อย่าลืมลุงนะ"
จากนั้นได้ย้ำต่อสื่อมวลชนว่า รัฐมีหน้าที่ส่งเสริม startup ให้สามารถ เดินหน้าได้อย่างไร้รอยต่อ ทั้งด้านกฎหมาย และการพัฒนา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รองนายกฝ่ายเศรษฐกิจระบุว่า นายกรัฐมนตรีอาจหน้าคล้ายคนเดิม พลเอกประยุทธ์ ตอบคำถามพร้อมเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า โดยระบุว่า "สุดท้ายก็อาจจะไม่ใช่คนเดียวกันหรือเปล่า"