พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีที่เตือนตัวเองให้ระมัดระวังในการพูดในช่วงนี้ว่า ตนก็ต้องเตือนตัวเอง เพราะหลายคนบอกว่าตนหงุดหงิด ขี้โมโห จึงต้องปรับปรุงตัวเอง ซึ่งทุกคนก็ต้องเตือนตัวเองในการออกสื่อ รวมถึงนักการเมืองและพรรคการเมืองที่ต้องช่วยกัน ขออย่าให้เกิดความขัดแย้งหรือสร้างบรรยากาศเดิมๆ ให้บ้านเมืองไม่สงบและวุ่นวายต่อไปเรื่อยๆ 

ทั้งนี้ หากทุกคนทำด้วยเจตนาบริสุทธิ์ก็จะเป็นสิ่งที่ดีต่อประเทศชาติ ตนไม่ต้องการให้นำคำพูดไปบิดเบือน กลายเป็นพูดอะไรก็เป็นประเด็นไปทั้งหมด เพราะอาจทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้มีส่วนเดี่ยวข้องกับพรรคการเมืองในขณะนี้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ไม่ต้องการให้มีผลต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องรักษากฎระเบียบเหล่านี้อยู่

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองวิจารณ์ 4 รัฐมนตรี ที่ยังไม่ลาออกว่า ผิดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญและไร้มารยาททางการเมืองว่า เป็นเรื่องของกฎหมาย ตนไม่ต้องการแก้ตัวให้กับใครเพราะเชื่อว่าทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าควรทำตัวอย่างไร ซึ่งนักการเมืองก็เช่นเดียวกันที่ต้องดูตัวเองด้วยว่าผิดกฎหมายเรื่องอะไรหรือไม่ ไม่ใช่ว่าเป็นนักการเมืองแล้วพูดได้ทุกอย่าง

อย่างไรก็ตาม ตนมาเป็นนักการเมืองในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ยอมรับตรงนี้ แต่ตนก็ต้องระมัดระวังการพูด ไม่อยากให้ประชาชนไปหลงเชื่อการหาเสียงต่างๆ ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงจึงต้องไปดูและมีหลักการคิดที่ถูกต้องว่าการเป็นประชาธิปไตยมันควรเป็นอย่างไร การเป็นประชาธิปไตยไม่จำเป็นต้องขัดแย้งเสมอไป

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง ความพอใจกับนโนบายรัฐบาลที่ลงไปในช่วง 4 ปี ว่า ตนต้องมีความพอใจ เพราะได้กำหนดนโยบายลงไป แต่ต้องไปติดตามในการนำนโยบายลงไปปฏิบัติด้วย ซึ่งย่อมต้องมีปัญหาอยู่บ้างในการที่ทำหลายอย่างออกไป แต่หลังจากนี้จะมีการสรุปผลการดำเนินงานให้ประชาชนทราบอีกครั้งว่ารัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาบางอย่างอาจจะไม่เข้าใจหรือไม่ได้ฟัง และบางอย่างถูกบิดเบือนไปก็ต้องสรุปให้ชัดเจนให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ได้ย้ำเตือนการให้ข่าวและข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ จำเป็นต้องให้ข้อมูลที่เกิดประโยชน์และทำให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้น ถือเป็นหลักในการประชาสัมพันธ์ ไม่เช่นนั้นจะถูกบิดเบือนว่าเอื้อประโยชน์บางฝ่าย ส่วนคนที่ออกมาพูดจาด้อยค่ารัฐบาลสังคมก็ไปพิจารณาเองว่ามันใช่หรือไม่ และถูกหรือผิด เพราะวันนี้หลายประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องข่าวจริงข่าวปลอมในโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ จึงให้เป็นเรื่องทางกฎหมาย

พร้อมกันนี้ ในช่วงท้ายด้วยว่า ยังขอความร่วมมือสื่อมวลชน ช่วยทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็จะระมัดระวังตัวให้มากที่สุด เพราะตนไม่ได้ลงไปเลือกตั้งกับเขา ดังนั้นจึงต้องรักษาระบบการบริหารราชการแผ่นดินในขณะที่เป็นรัฐบาลอยู่ให้เรียบร้อยที่สุด ซึ่งหลายอย่างเราต้องรักษาสถานการณ์ไว้ให้ได้ เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งและพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกในห้วงเวลาต่อไป ซึ่งสุดแล้วแต่จะทรงโปรดเกล้าฯ ในช่วงเวลาใด

เมื่อถามว่า การที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่ลงเลือกตั้งแสดงว่าได้ตัดสินใจแล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "เข้าใจคำว่าลงเลือกตั้งไหม" ก่อนจะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• 'จตุพร' เชื่อ 'ประยุทธ์' จะลาออก ถ้าอยากเป็นนายกฯ ต่อ