วันนี้ (26 เม.ย. 61) ที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ยังพบว่ามีประชาชน ได้เริ่มทยอยเดินทางมาลงบันทึกประจำวันต่อเนื่อง เพื่อขอรับยาสมุนไพรจากนายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือ หมอแสง ในวันเสาร์ที่ 5 พ.ค. 61 และจากการสอบถามผู้ป่วยทุกรายที่มาลงบันทึกประจำวัน ต่างคงเชื่อมั่นในสมุนไพรของหมอแสง ว่ากินสมุนไพรแล้วดีขึ้น พร้อมขอให้หมอแสงแจกต่อ เนื่องจากเป็นความหวังของผู้ป่วยทุกคน
จากการสอบถามผู้ป่วย นายสยาม อายุ 69 ปี ผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก ไปทำการตรวจจากโรงพยาบาลพบวาเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ที่ทางแพทย์นัดผ่าตัด ทำให้คนเองปฎิเสธการรักษาจากแพทย์ และหันมารับสมุนไพรจากหมอแสง ได้เป็นระยะเวลานานกว่า 1 ปี ทำให้สุขภาพดีขึ้นแข็งแรง เมื่อไปตรวจเมื่อวันที่ 5 มกราคม 61 ที่โรงพยาบาลพบว่ามะเร็งไม่แพร่กระจาย จึงต้องการให้หมอแสงแจกสมุนไพรไปตลอด
ส่วนนางนภาพรรณ อายุ 70 ปี ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมด้านซ้ายมา 3 ปี ไปให้คีโมมา 1 ครั้ง ร่างกายรับไม่ได้ จึงหันมารับยาสมุนไพรจากหมอแสง มาทานได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว ปรากฏว่าทำให้ร่างกายดีขึ้นมา ส่วนที่มีข่าวหมอแสงจะไม่จ่ายยาอีก ก็ขอให้ทำต่อเพราะคนเป็นมะเร็งยังต้องการ
ทั้งนี้ หลังจากที่มี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงผลการทดลองพบว่าฤทธิ์ยาของหมอแสงไม่สามารถยับยั้งเซลมะเร็งได้ นั้น จากการตรวจสอบยอดผู้ป่วยที่มาลงบันทึกประจำวัน ตั้งแต่ วันที่ 31 มี.ค. - 24 เม.ย 61 มียอดผู้ป่วยเก่ามาลงบันทึกประจำวัน จำนวน 16,700 ราย ผู้ป่วยใหม่ จำนวน 956 ราย รวมทั้งสิ้น 17,656 ราย
ขณะที่นายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือหมอแสง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า ประเด็นที่คนสงสัยว่าตนเองจะเลิกผลิตสมุนไพรหรือไม่นั้น อาจจะให้สูตรยากับต่างประเทศขายก็ได้ หากไม่มีคนกินออกมาช่วย คนกินต้องช่วยยืนยันผลกินยาให้ตนเองด้วย
และจากที่กรมการแพทย์ นำเซลล์มะเร็ง อาทิ มะเร็งเต้านม 3 ชนิดมะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะใส่หลอดทดลองด้วยยาทางเคมีผลการทดลองในหลอดทดลองพบว่าฤทธิยาฆ่าเชื้อมะเร็งตายได้ 70–80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสมุนไพรทดลองแล้วแจ้งว่ายับยั้งหรือฆ่าเชื้อมะเร็งได้ โดยไม่ได้บอกว่ายับยั้งได้กี่เปอร์เซ็นต์นั้น ตนเองสงสัยเหมือนกันว่า ทำไม่ไม่เอายาเบญจอำมฤต ยาสมุนไพรของกรมการแพทย์แผนไทยไปวิจัยบ้าง และแจ้งถึงผลว่าสามารถยับยั้งเซลมะเร็งได้กี่เปอร์เซ็นต์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง