สภาผู้แทนราษฎรลงมติผ่านร่างงบประมาณสำหรับ 2 ปีด้วยตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันนี้ (9 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น และส่งตรงไปให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามเพื่อให้มีผลบังคับใช้ โดยส.ส.ลงมติผ่านร่างงบประมาณฉบับนี้ด้วยคะแนนเสียง 240 ต่อ 186 เสียง ซึ่งมีสมาชิกพรรคเดโมแครต 71 คนลงมติผ่านร่างดังกล่าวด้วย ทำให้การชัตดาวน์รัฐบาลกินเวลาไม่ถึง 6 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนเวลาเปิดทำการของหน่วยงานรัฐ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องชัตดาวน์เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ หลังจากที่นายแรนด์ พอล ส.ว.พรรครีพับลิกัน เรียกร้องให้มีมติพักการประชุมไปจนกว่าจะถึงเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ (9 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นเวลาสิ้นสุดการใช้งบประมาณสำรอง เนื่องจากเขาต้องการให้มีการอภิปรายเกี่ยวกับการเพิ่มงบประมาณสำหรับ 2 ปีอีกกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มงบด้านความมั่นคงอีก 165,000 ล้านดอลลาร์ และงบใช้จ่ายภายในประเทศ เช่น งบสาธารณสุข สาธารณูปโภค และการปราบสารเสพติดที่เป็นอนุพันธ์ของฝิ่น รวม 131,000 ล้านดอลลาร์
นายพอลโจมตีสมาชิกพรรครีพับลิกันกันเองว่า ใช้งบประมาณอย่างสุรุ่ยสุร่าย พร้อมระบุว่า เขาตั้งใจเข้ามาทำงานในสภาคองเกรส เพราะกังวลที่รัฐบาลนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีคนก่อน ทำให้ประเทศขาดดุลสะสมหลายล้านล้านดอลลาร์ เขาจึงไม่อาจรับได้ที่พรรคตัวเองจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดให้เกิดการขาดดุลสะสมอีก
นายแรนด์ พอล ส.ว. พรรครีพับลิกันยื้อการประชุมสภา ทำให้มีการชัตดาวน์รัฐบาลอีกครั้ง
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ ชัตดาวน์รัฐบาลครั้งแรก กินเวลา 3 วัน เพราะไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณได้ ก่อนที่พรรคเดโมแครตจะยอมถอยเกี่ยวกับโครงการสนับสนุนผู้อพยพวัยเยาว์ (DACA) เพื่อให้มีการอนุมัติงบประมาณชั่วคราวออกมาใช้ และแม้ร่างงบประมาณฉบับใหม่นี้ยังไม่รวมโครงการ DACA เข้าไปด้วย แต่สมาชิกพรรคเดโมแครตบางส่วนก็มองว่า การผ่านร่างงบประมาณจะช่วยให้ประเทศผ่านวิกฤตไปได้
อ่านเพิ่มเติม:
