รายงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระบุว่า เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธและรวมถึงยังต่อต้านมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วยการถ่ายโอนผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในเรือแตละลำ เช่นเดียวกับการถ่ายโอนถ่านหินที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2018 ที่ผ่านมา
นอกจานี้ในรายงานยังระบุว่า เกาหลีเหนือยังพยายามจัดหาอาวุธและมีการขายอาวุธขนาด รวมไปถึงอุปกรณ์ทางการทหารไปยังลิเบีย เยเมนและซูดาน โดยผ่านตัวกลางต่างชาติ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญสรุปว่า มาตราการคว่ำบาตรทางการเงินที่มีต่อเกาหลีเหนือนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าผลิตเชื้อเพลิงสำหรับการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป แม้ว่าจะมีการลงนามในสัญญายุตินิวเคลียร์กก่อนหน้านี้ก็ตาม
ขณะที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าวว่า ดาวเทียมสอดแนมของสหรัฐฯ ตรวจพบว่า มีการดำเนินงานบางในบริเวณโรงงานผลิตขีปนาวุธข้ามทวีปแห่งแรกของเกาหลีเหนือ ซึ่งโรงงานดังกล่าวสามารถผลิตขีปนาวุธข้ามทวีปได้ถึงสหรัฐฯ
นอกจานี้วอชิงตัน โพสต์ยังรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ที่ไม่เปิดเผยตัวตนว่า เกาหลีเหนืออาจจะมีการสร้างขีปนาวุธข้ามทวีปจำนวน 1 หรือ 2 ลูก ขึ้นมาใหม่ในศูนย์วิจัยในเกาหลีเหนือ
เกาหลีเหนือได้ลงนามสัญญายุติโครงการนิวเคลียร์กับทางสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่าน แต่ไม่มีการระบุว่ากระบวนการยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีจะเริ่มขึ้นเมื่อใด และปัจจุบันเกาหลีเหนือยังถูกนานาชาติลงโทษและคว่ำบาตรจากประเด็นเรื่องโครงการนิวเคลียร์และการทดสอบขีปนาวุธ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง