ไม่พบผลการค้นหา
'กัณวีร์' ห่วงผู้ประสบภัยโกดังพลุไฟระเบิด เสนอรัฐเร่งจัดหาพื้นที่พักพิงชั่วคราว จัดการ "ส่วย" ทบทวนกฎหมายควบคุมพลุไฟ เตรียมขอหารือต่อสภาฯ เร่งฟื้นฟูจัดการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเป็นระบบ

วันที่ 1 ส.ค.66 กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ลงพื้นที่บ้านมูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ให้กำลังใจผู้ประสบภัยจากเหตุโกดังพลุไฟระเบิด ซึ่งมีบ้านที่พังเสียหาย ครอบครัวผู้เสียชีวิต พบว่าต่างยังฝันร้ายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แรงระเบิดทำให้บ้านพังทั้งหลัง หลายคนบาดเจ็บ และสูญเสียคนที่รัก จึงถือเป็นเหตุความรุนแรงที่ประเมินค่าไม่ได้ 

"ผมได้ให้กำลังใจครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งต้องเร่งเยียวยาให้กับพวกเขา นอกจากการสูญเสียครอบครัว สูญเสียบ้านแล้ว การดูแลสภาพจิตใจเป็นเรื่องสำคัญ เช่นเดียวกับการวางแนวทางในการฟื้นฟูด้วยครับ"

กัณวีร์ เปิดเผยว่า สภาพความเสียหายไม่ต่างจากสงคราม คงต้องใช้เวลาในการเยียวยาทั้งร่างกาย จิตใจ และฟื้นฟูบ้านเรือนที่เสียหายอย่างหนัก ซึ่งไม่สามารถเปิดมูลค่าความเสียหายได้

'ความเสียหายไม่ต่างจากพื้นที่สงคราม ผมต้องขอแสดงความเสียใจกับทุกคนมากๆครับ ตอนนี้คงต้องช่วยกันบริหารจัดการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ผมมาลงพื้นที่จะรวบรวมปัญหาเพื่อขอหารือในสภาฯ วันพฤหัสบดีที่ 3 ส.ค.นี้ ครับ ซึ่ง สส. หลายท่านจะนำเรื่องนี้ไปหารือต่อสภาผู้แทนราษฎร'

กัณวีร์ เปิดเผยว่าจะนำเรื่องนี้ขอหารือต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ รวมถึงการทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวกับดอกไม้เพลิงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีความละเอียดอ่อนทางความมั่นคง มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องถึง 5 กระทรวง ทำไมวัตถุไวไฟจำนวนมากถึงเล็ดลอดสายตาของเจ้าหน้าที่มาเก็บในโกดังกลางชุมชนแบบนี้ได้ ต้องหาต้นตอของปัญหา เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบอย่างแน่นอน

"การควบคุมกฎหมายดอกไม้เพลิงมีอยู่แล้ว 5 กระทรวง เรายังไม่ทบทวนแนวปฏิบัติ ว่าจะมีผลกระทบกับประชาชน การจะมีโรงงานหรือโกดังดอกไม้ไฟ ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าหน้าที่ จึงเป็นไปไม่ได้ ที่มีปล่อยให้มีการเก็บดอกไม้เพลิง ประชาชนต้องเข้ามามีส่วนพิจารณา ต้องมาผ่านธรรมนูญชุมชน ธรรมนูญประชาชน ให้ท้องถิ่นดูแล และไม่มีทางถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่รู้เห็น"

กัณวีร์ ย้ำว่า ถ้าไม่มีการปล่อยปะละเลยเรื่องกฎหมาย การรับผลประโยชน์ เช่น ส่วย เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น กลายเป็นช่องว่างที่ทบทวนการใช้กฎหมาย รวมถึงการจัดการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแบบครอบคลุม ก็ต้องทำ เพราะมีผู้ประสบภัยหลายกลุ่มมาก ทั้งที่บ้านพังเสียหาย ผู้ประสบภัย ต้องมีพื้นที่พักพิงที่ปลอดภัย เช่น Collective Center อาจต้องไปเช่าตึกหรืออาคาร ให้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราว และวางแผนในการฟื้นฟูความเสียหายในระยะยาวด้วย

"เมื่อ 7 เดือนก่อนผมก็ได้ลงพื้นที่บ้านมูโนะ ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ 2 ครั้ง และยังมาเกิดระเบิดที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความสูญเสียหลายครั้ง ก็ต้องให้กำลังใจและให้การช่วยเหลือฟื้นฟูกันอย่างมากเลยครับ" กัณวีร์ กล่าวย้ำ