ไม่พบผลการค้นหา
'กัณวีร์' ติง 'สุทิน' เป็น รมว.กลาโหมแล้ว ต้องหนักแน่น ต้องไม่ให้อธิปไตยของไทยถูกละเมิด ย้ำอย่าเกรงใจความสัมพันธ์เมียนมา จนลืมความปลอดภัยของคนไทยชายแดน และรู้เห็นเป็นใจให้เกิดการเข่นฆ่าประชาชน

วันที่ 14 กันยายน 2566 กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยว่า ตกใจกับคำแถลงของนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีมีรายงานว่าทหารเมียนมาได้รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย บริเวณบ้านเลอตองคุ ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ซึ่งนายกัณวีร์ ได้รับร้องเรียนมาจากประชาชนและเครือข่ายภาคประชาสังคมเป็นห่วงความปลอดภัย และ ได้ตั้งคำถามไปถึงนายสุทิน ว่ารู้เรื่องนี้หรือไม่ 

กัณวีร์ ย้ำว่า อธิปไตยเหนือดินแดนต้องไม่ถูกละเมิด เพียงเพื่อความสัมพันธ์ทางทหารในพื้นที่ และไทยต้องไม่ถูกมองจากประชาคมโลกว่าได้ยื่นมือไปโอบอุ้มทหารเมียนมาและสนับสนุนการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างไม่รู้ตัว 

ในขณะที่คำแถลงของ รมว.กลาโหม ต่อการรุกล้ำอธิปไตยเหนือดินแดนไทยของทหารเมียนมาที่ติดอาวุธครบมือ พร้อมใส่เครื่องแบบเข้ามาในแผ่นดินไทย มองเรื่องนี้ว่า "เป็นเรื่องปกติ ก็มีกันมาเรื่อยๆ ล้นเข้ามาเรื่อยๆ เวลาเค้ารบกันก็หนีกันเข้ามา…ต้องดูที่เจตนา !!”

กัณวีร์ ระบุว่า เข้าใจตรงที่ว่า รบกันก็หนีเข้ามาในไทย แต่ทหารใส่เครื่องแบบติดอาวุธครบมือจำนวนหลักร้อยคน เหยียบบนแผ่นดินไทยและพักอยู่ 2 คืน ในพื้นที่ที่มีประชาชนไทยอยู่และสร้างความหวาดกลัวให้กับพี่น้องชาวไทยในพื้นที่ โดยที่ไม่มีการปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติประจำ (รปจ.) ทางการทหาร คือ “การปลดอาวุธ”

"ผมว่าคนไทยทุกคนเข้าใจบริบทความละเอียดอ่อนบริเวณพื้นที่ชายแดน ที่หน่วยงานทางราชการทุกส่วนต้องมีความอ่อนตัว โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์กับหน่วยราชการของประเทศเพื่อนบ้าน แต่การที่เรายอมด้อยค่าเรื่องอธิปไตยเหนือดินแดน เป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้"

กัณวีร์ ระบุว่า ไม่ว่าจะมีเจตนาอะไรอย่างไร เจตนาดีหรือไม่ แต่เป็นทหารที่มีอาวุธครบมือ ของประเทศเพื่อนบ้าน ที่ไม่สามารถมาเหยียบผืนแผ่นดินไทยได้ไม่ว่ากรณีใดๆ โดยมีอาวุธติดมาครบมือ ต้องปลดอาวุธทั้งหมด และอยู่ภายใต้การควบคุมของทหารไทย ตาม ระเบียบปฏิบัติประจำ (รปจ.)ทางทหารเท่านั้น ไม่มีข้อยกเว้น 

“เราประท้วงไปแล้วนะ ในช่องทางที่เราประท้วงได้ ตามแนวชายแดน” คำพูดของ รมว.กลาโหมไทย พูดแบบนี้ไม่ได้ครับ นายกัณวีร์ เห็นว่า การที่อธิปไตยเหนือดินแดนไทยถูกรุกล้ำ แล้วเราแค่ประท้วง มันได้เหรอครับ

กัณวีร์ เห็นว่า หากบอกว่าลี้ภัยเข้ามา ต้องไม่มีอาวุธ และต้องหนีการประหัตประหารหรือความตายจากประเทศต้นกำเนิด และต้องตกอยู่ในคำนิยามของผู้ลี้ภัยเท่านั้น มิใช่เดินทางเข้ามาในประเทศอื่นโดยยังคงใส่เครื่องแบบและติดอาวุธครบมือ เพื่อมาหาเสบียงและเพื่อใช้ประเทศอื่นเป็นทางผ่านเพื่อเข้าไปยังฐานปฏิบัติการทางทหารของตน เพื่อไปทำการริดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานของการเป็นมนุษย์ โดยการฆ่าฟันพลเมืองผู้บริสุทธิ์ในประเทศตนอีก นี่เท่ากับไทยให้ความช่วยเหลือการปฏิบัติการทางทหารของเมียนมา เพื่อให้ทหารมีกำลังไปเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ของตนเอง ตามที่สถานการณ์ในเมียนมาเป็นอยู่

“อย่าไปเข้าร่วมเลยครับกับทหารเมียนมาที่กำลังใช้การปฏิบัติการทางทหารเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ครับ ผมขอร้อง อธิปไตยเหนือดินแดนไทยต้องไม่ถูกรุกล้ำและด้อยค่า เพียงแค่ความสัมพันธ์ทางทหารในพื้นที่” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ