ไม่พบผลการค้นหา
เสือภูเขาจู่โจมชายคนหนึ่ง ซึ่งวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าเพียงลำพัง บนเส้นทางวิ่งในวนอุทยานสหรัฐฯ เขาจึงต่อสู้และฆ่าเสือด้วยมือเปล่า ก่อนวิ่งกลับไปที่รถและขับไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง

เจ้าหน้าที่วนอุทยานและสัตว์ป่ารัฐโคโลราโดของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ชายคนหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ถูกเสือภูเขาจู่โจมขณะที่เขากำลังวิ่งออกกำลังในช่วงเช้า โดยใช้เส้นทางเวสต์ริดจ์เทรลตามแนวภูเขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานที่เปิดให้บริการต่อสาธารณะและเสือภูเขาเพศผู้ที่กำลังโตจู่โจมชายคนดังกล่าวจากข้างหลัง ขณะที่เขาวิ่งอยู่เพียงลำพังเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม นักวิ่งคนดังกล่าวต่อสู้กับเสือภูเขาอย่างเต็มที่ แม้ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตัวอื่นใด และทำให้เสือขาดใจตาย จากนั้นจึงวิ่งกลับไปที่รถของตัวเองและขับรถไปที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ทั้งแผลโดนกัดขนาดใหญ่บนใบหน้า ข้อมือ และหลัง รวมถึงแผลถูกตะปบตามแขนและขา โดยเป็นบาดแผลลึกที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ไม่ได้เปิดเผยว่านักวิ่งฆ่าเสือด้วยวิธีใด แต่ผลชันสูตรซากพบว่า เสือตายเพราะขาดอากาศหายใจ แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่านักวิ่งคนดังกล่าวต้องป้องกันตัวเอง จึงไม่มีความผิดฐานฆ่าสัตว์ป่า ทั้งยังระบุด้วยว่าเป็นเรื่องถูกต้องแล้วผู้ที่ถูกเสือหรือสัตว์ป่าโจมตีจะต้องต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อเอาตัวรอด

ส่วนเสือภูเขาตัวดังกล่าวมีน้ำหนักตัวประมาณ 36 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบุว่าอายุเท่าใด แต่ระบุว่าเป็นเสือเพศผู้ที่เพิ่งโตเป็นหนุ่ม


ถ้าต้องเผชิญหน้ากับ 'เสือภูเขา' ควรทำอย่างไร?

สำนักข่าวเดอะการ์เดียนเผยแพร่บทสัมภาษณ์ ลิน คัลเลนส์ ผู้บริหารมูลนิธิไม่แสวงผลกำไรเพื่อการอนุรักษ์เสือภูเขา Mountain Lion Foundation หรือ MLF ในสหรัฐฯ ซึ่งคัลเลนส์ยืนยันว่า นักวิ่งคนดังกล่าวทำถูกต้องแล้ว พร้อมทั้งแนะนำว่า หากพบกับเสือภูเขาในเขตป่า 'อย่าวิ่งหนีเด็ดขาด' แต่ต้องยืนปักหลักให้มั่นคง เผชิญหน้ากับเสือภูเขาโดยยืดตัวเต็มที่และส่งเสียงดัง ถ้ามีอาวุธหรืออุปกรณ์ช่วยให้ใช้ต่อสู้กับเสืออย่างเต็มที่ 

  • ทวิตเตอร์ของวนอุทยานในสหรัฐฯ เผยแพร่คู่มือปฏิบัติเมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ปา

คัลเลนส์แนะนำนักวิ่งหรือผู้ที่เดินป่าในเส้นทางภูเขา ให้เลือกสวมเสื้อผ้าที่มีสีสันตัดกันให้มากที่สุด เพราะสายตาของเสือไม่ได้มองเห็นสีชัดเจนเหมือนมนุษย์ แต่จะปรับตัวให้สามารถมองเห็นได้ชัดในเวลากลางคืน การสวมเสื้อผ้าสีตัดกันมากๆ เช่น สีแดงตัดกับสีขาว หรือสีขาวตัดสีดำ จะช่วยให้เสือไม่มองบุคคลดังกล่าวในฐานะเหยื่อ เพราะในความเป็นจริง เสือก็กลัวมนุษย์เช่นกัน และต้องระวัง 'อย่าหันหลัง' ให้กับเสือ

ส่วนสถิติผู้ถูกเสือภูเขาโจมตีในรัฐโคโลราโดเกิดขึ้นไม่มากนัก นับตั้งแต่ปี 1990 มีผู้บาดเจ็บเพราะเสือภูเขาโจมตี 16 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพียง 3 ราย แต่ปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บร้ายแรง 1 ราย ขณะปั่นจักรยานตามแนวภูเขาในรัฐวอชิงตัน และเสือภูเขาที่โจมตีเป็นเพียงเสือผอมโซ แต่ผู้ถูกโจมตีตกใจและพยายามหนี โดยเหตุเกิดขึ้นที่นอร์ธเบนด์ ห่างจากเมืองซีแอตเติลประมาณ 48 กิโลเมตร

ขณะที่สำนักข่าวบีบีซีรายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของ มาร์ก เลสลีย์ ผู้จัดการวนอุทยานและสัตว์ป่าโคโลราโด เขตตะวันออกเฉียงเหนือ สนับสนุนให้คนต่อสู้อย่างเต็มที่เมื่อเผชิญกับเสือหรือสิงโต เพราะมีโอกาสที่จะรอดมากกว่าการวิ่งหนี พร้อมย้ำว่าการวิ่งหรือเคลื่อนไหวจะยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณการล่าเหยื่อของสัตว์ป่า แต่การส่งเสียงดัง หรือใช้อุปกรณ์ทำให้เกิดเสียงดัง จะช่วยข่มขวัญสัตว์ได้

นอกจากนี้ บัญชีทวิตเตอร์ของวนอุทยานยังได้เผยแพร่คู่มือปฏิบัติตัวสำหรับผู้เดินป่าหรือผู้ที่ใช้เส้นทางเดินป่าในภูเขาแก่ผู้ที่สนใจ โดยเนื้อหาในคู่มือระบุว่า อย่าวิ่งหรือปั่นจักรยานหรือใช้เส้นทางวนอุทยานเพียงลำพัง แต่ควรทำกิจกรรมเป็นหมู่คณะ รวมถึงหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางในช่วงเช้าตรู่หรือย่ำค่ำ และต้องศึกษาเส้นทางอย่างละเอียดเพื่อป้องกันการหลงออกนอกเส้นทาง

ถ้าพบเสือหรือสัตว์ป่าตามข้างทางอย่าเข้าไปใกล้ แต่จงมีสติและอย่าวิ่งหนีในทันที แต่ให้จ้องตาเสือหรือสัตว์ป่าและค่อยๆ ถอยออกจากจุดที่เผชิญหน้า และถ้าสัตว์ป่าเข้าใกล้ในระยะประชิดแนะนำให้เล่นงานที่ดวงตา

ที่มา: BBC/ The Guardian

ภาพจาก: Sergey Romanov on Unsplash