นางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน เปิดเผยว่า จากการติดตามผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่มีต่อท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ล่าสุดในวันนี้ 17 ธ.ค.2561 เมื่อเวลา 07.30 น. ที่ผ่านมาระดับน้ำภายในท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชยังคงระดับเดิม ในขณะที่ด้านนอกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย การระบายน้ำเป็นไปอย่างต่อเนื่องและท่าอากาศยานได้เฝ้าระวังประเมินสถานการณ์เป็นระยะทุก 3 ชั่วโมง ในขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อด้านการบินแต่อย่างใด การขึ้นลงของอากาศยานยังเป็นปกติ การสัญจรเข้าสู่ท่าอากาศยานสามารถเดินทางได้
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกในการเดินทาง ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางและแจ้งเส้นทางเข้าออกที่สะดวกให้ผู้โดยสารทราบด้วยแล้ว หากมีข้อสงสัย ผู้โดยสารสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ประชาสัมพันธ์หมายเลข 075-450545
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมสั่งการให้หน่วยงานในสังกัด เช่น กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบทและกรมการขนส่ง เตรียมพร้อมในพื้นที่บูรณาการให้ความสนับสนุนแก่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชในการป้องกันปัญหาน้ำท่วมตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ONE TRANSPORT ONE FAMILY
ยะลาเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรี เริ่มล้นตลิ่ง ท่วมไร่นาสวนของชาวบ้านแล้ว
จากสถานการณ์ฝนกระหน่ำพื้นที่จังหวัดยะลาและพื้นที่ใกล้เคียง มาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะพื้นที่เหนือน้ำ ได้แก่ อ.สุคิริน อ.ศรีสาคร และ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี ที่ไหลผ่าน อ.รามัน จ.ยะลา และอ.กะพ้อ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำให้ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นในระดับที่น่าเป็นห่วงนั้น
ด้านนายอนุชิต ตะกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาอุทกภัยและดินถล่ม จังหวัดยะลา ได้สั่งการให้นายอำเภอ พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติทางน้ำ เน้นพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรี พื้นที่ ต.บาลอ ต.ตะโล๊ะหะลอ ระดับน้ำเริ่มล้นตลิ่ง ท่วมสวนยางพารา และบ้านเรือน บ้านฮูยงปาเซ หมู่ที่ 3 ต.ตะโล๊ะหะลอ ต้องอพยพชาวบ้านไปอาศัยอยู่ที่สูงเพื่อความปลอดภัยแล้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำทุกปี
นอกจากนี้ในพื้นที่บ้านเปาะยานิ หมู่ที่ 2 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำจาก ต.โกตาบารู ต.เนินงาม อ.รามัน และ ต.บุดี อ.เมืองยะลา จะเกิดน้ำท่วมขังเป็นประจำทุกปี ขณะนี้น้ำเริ่มไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่า จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ราบลุ่มท่วมซ้ำซาก ทางเทศบาลสะเตงนอก ได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับใช้เป็นศูนย์อพยพผู้ประสบภัยแล้ว
สุราษฎร์ฯ น้ำท่วมได้รับผลกระทบแล้ว 7 อำเภอ หลายหน่วยงานเร่งช่วยเหลือ
ส่วนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายปราโมทย์ เพชรรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากแพรก ลงพื้นที่บริเวณสะพานข้ามคลองในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลปากแพรก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากน้ำจากเทือกเขาหลวงได้ไหลเข้าท่วมสะพานทำให้ชาวบ้านจำนวน 45 ครัวเรือน สัญจรไม่ได้
โดยที่สถานการณ์ในช่วงเช้า ท้องฟ้ามืดครึ้ม ฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางในหลายอำเภอ ส่วนระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ราบลุ่ม บ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตร
ทั้งนี้ จังหวัดสุราษฎร์ฯ มีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 7 อำเภอ ประกอบไปด้วย อ.ท่าฉาง อ.ไชยา อ.เกาะสมุย อ.เมืองฯ อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสักและ อ.ท่าชนะ รวมจำนวน 25 ตำบล 110 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 3,123 ครัวเรือน 10,651 คน ด้านการให้ความช่วยเหลือ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี บัญชาการณ์ให้ทุกหน่วยงาน สนับสนุนรถบรรทุก พร้อมกำลังพล ออกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง