วันที่ 17 ก.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี กรณีการหารือ 8 พรรค ก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ในวันที่ 19 ก.ค.ในที่ประชุมรัฐสภา ว่า วันนี้ต้องได้ข้อสรุปว่าจะมีมติ 8 พรรคร่วมอย่างไร เพื่อที่จะเสนอในวันที่ 19 ก.ค.อย่างไร

ส่วนกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอแคนดิเดตของพรรค นั้นก็เป็นเพียงกระแสข่าว เพราะเราทำตามมติ mou ของทั้ง 8 พรรค จากการหารือร่วมกัน กับพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ข้อเสนอของพรรคก้าวไกล ที่เปิดเผยได้อยู่ ณ ขณะนี้คือ ยังคงเสนอชื่อ พิธา ในวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็รับมาพิจารณาในพรรค ว่า ที่เสนอมาเช่นนี้ ในพรรคเพื่อไทยคิดกันอย่างไร จากนั้น เวลา 15.00 น. ก็จะหารือต่อกับพรรคก้าวไกล และฟังจากกระแสคนที่ไม่ต้องการจะลงคะแนน ในครั้งที่ 2 อาจจะต้องหาเหตุผลมาชี้แจงเพิ่ม ก็อาจจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อาจจะมีการใช้ข้อบังคับการประชุมข้อที่ 41 ก็เป็นญัตติเฉพาะ ที่อาจจะห้ามมิให้มีการนำเสนอชื่อ พิธา ซึ่งก็ต้องหาข้อกฎหมายมาต่อสู้กัน และหากมีการนำเสนอชื่อต่อ ตนเองก็จะขอใช้สิทธิลุกขึ้นทักท้วง และจากประสบการณ์ที่ทำงานสภามาหลายปี ญัตตินี้มี 2 ความหมาย คือ เป็นญัตติทั่วไป ที่เป็นเรื่องทั่วๆ ไป ญัตติเป็นข้อเสนอ ที่ให้สภา ดำเนินการอย่างไรอย่างหนึ่ง นี่คือความหมายของญัตติเช่น มีมติให้เลือก กมธ. ทั้งหมดเป็นข้อเสนอ แต่หลายเรื่องก็เป็นญัตติเฉพาะที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งญัตติการเลือกนายกฯ ไม่ใช่ญัตติทั่วไป และถ้าหากมีการเสนอนายกฯ จากฝั่งตรงข้ามจริง ก็ต้องหาแนวทางว่าทำอย่างไรเราถึงจะชนะ และพรรคเพื่อไทยก็มีวิธีการรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น แต่ไม่เปิดเผย เพราะหากเปิดเผยก็คงไม่เรียกว่าแผน

ส่วนกรณีที่ด้อมส้มไปกดดัน ส.ว.จะส่งผลต่อการโหวตนายกฯ ในวันที่ 19 นี้หรือไม่ ก็คงตอบไม่ได้ แต่ถึงแม้ด้อมส้มไม่ไปกดดัน เขาก็ไม่โหวตให้อยู่แล้ว ต่อให้ก้าวไกล ไม่เป็นแกนตั้งรัฐบาล เพื่อไทยเป็นและมีก้าวไกลร่วม เขาก็ไม่เลือก เป็นสิ่งที่ ส.ว.บางคน ก็พูดมาก่อนเองโดยตลอด 

ส่วนที่มีรายข่าวว่า พล.ต.อ.เสรีศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ไปชวนพรรคชาติพัฒนามาร่วมรัฐบาล 8 พรรคนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่เป็นมติ 8 พรรค อะไรก็ตามที่อยู่ใน mou เราต้องยึดมั่น ส่วนที่ พิธาประกาศ วันที่ 15 ว่าจะแก้ ม.272 ก็ไม่ได้อยู่ใน mou เป็นสิ่งที่ พิธาทำเอง การทาบทามของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็เป็นการทาบทามส่วนตัว และพรรคแกนนำก็ไม่ได้ดำเนินการเรื่องนี้