เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ( 2 เม.ษ. ) สภาร่างรัฐธรรมนูญของเวเนซุเอลามีมติถอดถอนเอกสิทธิคุ้มครองตามกฎหมายของนายฮวน กวัยโด ผู้นำฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา หลังจากถูกสั่งห้ามเคลื่อนไหวในที่สาธารณะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายกวัยโดกล่าวว่า เขาพร้อมที่จะต่อสู้กับระบอบที่ไม่ยุติธรรมและเป็นอันตรายของนายนิโคลัส มาดูโรนี้ต่อไปแม้ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจนำไปสู่การจับกุมตัวเขาในที่สุด
ก่อนหน้าที่ทางรัฐบาลเวเนซุเอลาก็ได้มีการออกคำสั่งห้ามผู้นำฝ่ายค้านเคลื่อนไหวในที่สาธารณะ ซึ่งทางรัฐบาลของนายมาดูโรให้เหตุผลว่า สถานะทางการเงินของนายกวัยโดนั้นไม่มีความโปร่งใส รวมไปถึงยังกล่าวว่านายกวัยโดนั้นรับสินบนจากรัฐบาลต่างชาติ
นายเอลวิช อาโมโรโซ ตัวแทนของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรกล่าวว่า นายกวัยโดนั้นได้พักอาศัยอยู่ในโรงแรมหรูและไม่มีการชี้แจงให้ทราบว่าใครเป็นผู้จัดหาที่พักดังกล่าวให้ ทางด้านทีมโฆษกของนายกวัยโดออกมาตอบโต้ว่า ผู้ที่จะมีอำนาจในการสั่งห้ามผู้นำฝ่ายค้านในการเคลื่อนไหวทางการเมืองและถอดถอนตำแหน่งได้นั้นมีเพียง 'ศาล' เท่านั้น
ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาศาลฎีกาของเวเนซุเอลาก็มีคำสั่งห้ามนายกวัยโดเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเขาได้เดินทางไปยังประเทศในภูมิภาคละตินอเมริกาเพื่อหาเสียงสนับสนุนการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรออกจากตำแหน่ง
ทางด้านอัยการของเวเนซุเอลามีการดำเนินการสอบสวนนายกวัยโดในข้อหามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ยังไม่มีการควบคุมตัวหรือการตั้งข้อหาอาชญากรรมใดๆ กับนายกวัยโด และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการจับกุมตัวคนรอบข้างนายกวัยโด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายโรแบร์โต มาร์เรโร ผู้ช่วยของนายกวัยโดโดยตั้งข้อหาว่า เป็นผู้นำของกลุ่มก่อการร้ายและครอบครองอาวุธสงคราม
การประท้วงในเวเนซุเอลลานั้นยืดเยื้อมานานกว่า 2 เดือนนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ประชาชนนับพันออกมาประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร หลังจากการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอีกสมัยเมื่อปลายเดือนมกราคมที่่ผ่านมา
ทางด้านนายกวัยโด ผู้นำฝ่ายค้านได้รับการเสนอชื่่อให้เป็นประธานรัฐสภาของเวเนซุเอลานั้นกลายมาเป็นผู้นำการประท้วงขับไล่ระบอบเผด็จการของนายมาดูโร และประกาศตนขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ของเวเนซุเอลลา ซึ่งกว่า 50 ประเทศให้การรับรองนายกวัยโดเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งหนึ่งในประเทศที่รับรองคือ สหรัฐฯ อังกฤษ รวมไปถึงประเทศในละตินอเมริกาอีกหลายชาติ
อย่างไรก็ตามการถอดถอนสิทธิคุ้มครองตามกฎหมายของผู้นำฝ่ายค้านจะต้องผ่านมติจากสภานิติบัญญัติของเวเนซุเอลาก่อนซึ่งปัจจุบันพรรคฝ่ายค้านนั้นเป็นฝ่ายควบคุมสภานิติบัญญัติ
ที่มา The guardian / CNN / Reuters
ข่าวที่เกี่ยวข้อง