ความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของรัสเซียในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากการลงนามประกาศผนวกดินแดน 4 แคว้นยูเครน ได้แก่ โดเนตสก์ ลูฮานสก์ เคอร์ซอน และซาปอริซเซีย เข้าเป็นของรัสเซีย แม้ว่ารัสเซียเองจะยังไม่สามารถควบคุมพื้นที่ทั้งหมดภายใต้ตนเองได้ก็ตาม ตามมาด้วยการถูกเข้าตีเพื่อยึดคืนพื้นที่จากทางยูเครนอย่างรุดหน้า ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่วันที่ผ่านมา
ปัจจุบันนี้ รัสเซียยังคงควบคุมเมืองเคอร์ซอน ซึ่งเป็นเมืองหลักของภูมิภาคทางตอนใต้ แต่การยึดครองของรัสเซียเริ่มสั่นคลอนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ทั้งหมดทางตอนเหนือของแม่น้ำดนีเปอร์ หรือที่รู้จักในชื่อดนิโปรในภาษายูเครน ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการลำเลียงขนส่งของรัสเซีย โดยในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา กองกำลังยูเครนได้เคลื่อนพลไปทางใต้ เพื่อเข้าตีตามริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ จนกองทัพของรัสเซียต้องถอนกำลังออกจากหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของภูมิภาคเคอร์ซอนเช่นกัน
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า กองทัพยูเครนได้สร้าง “ความเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว แข็งแกร่ง” ในทางตอนใต้ของยูเครน และปลดแอก “หลายสิบพื้นที่” เพียงแค่ช่วงเวลาสัปดาห์นี้เท่านั้น “ธงชาติยูเครนโบกสะบัดเหนือหมู่บ้านดาวีดิฟบริดอีกครั้ง” กระทรวงกลาโหมยูเครนระบุ ในขณะที่มีการเผยแพร่ภาพประชาชนในพื้นที่ ออกมาต้อนรับทหารยูเครนที่กลับเข้ามายึดคืนพื้นที่ของตนได้อีกครั้ง
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (4 ต.ค.) เซเลนสกีระบุว่า หมู่บ้านต่างๆ ได้แก่ ลยูบิมิฟกา เครชเชนิฟกา โซโลตาบอลกา บิลยาอิฟกา อูเครนกา เวลีกาโอเลกซานดริฟกา และ มาลาโอเลกซานดริฟกา ได้รับการปลดแอกเช่นกัน และสิ่งนี้ “ยังห่างไกลจากรายชื่อทั้งหมด” ของพื้นที่ที่รอการปลดแอกคืนจากรัสเซียมายังยูเครน ทางการยูเครนระบุว่า 50 เมืองและหมู่บ้านของยูเครนถูกยึดไป และประชาชนประมาณ 3,500 คนได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้ว
คิริลล์ สเตรมูซอฟ เจ้าหน้าที่ประจำเคอร์ซอนที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย ระบุกับผู้อยู่อาศัยในเคอร์ซอนว่า “มันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องตื่นตระหนก” อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ ถึงการถูกยึดคืนหมู่บ้านในทางตอนใต้ไป จนถึงพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือจำนวนมากไปโดยยูเครนจากทางรัสเซีย โดยเจ้าหน้าที่ของฝ่ายรัสเซียไม่มีการแถลงถึงความพ่ายแพ้แต่อย่างใด อย่างไรก็ดี มีหลักฐานบ่งชี้ว่า รัสเซียสูญเสียฐานการควบคุมของตนในพื้นที่อาร์คานเฮลสเก และ เวลีกาโอเลกซานดริฟกา ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของภูมิภาค และดัดชานีในทางแม่น้ำดนิเปอร์แล้ว
มีการรายงานว่า ทหารรัสเซียตัดสินใจถอนกำลังของตนเองออกจากพื้นที่ต่างๆ ของยูเครน เนื่องจากความกลัวว่าตนจะถูกกองทัพยูเครนล้อมรอบเอาไว้ได้ ทั้งนี้ ยูเครนเริ่มตีคืนพื้นที่จำนวนมากตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา และยังคงเดินหน้าการตีคืนพื้นที่อีกจำนวนมาก ที่ประสบกับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมานถึงช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ สอดคล้องกันกับการประกาศระดมกำลังพลเพิ่มอย่างน้อย 300,000 นาย ของ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และการเร่งรัดจัดทำประชามติผนวกดินแดน 4 แคว้นของยูเครนในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา
ที่มา: