วัคซีนโควิด-19 เป็นเรื่องสาธารณะที่น่าพิศวงอย่างไม่จำเป็นเรื่องหนึ่งของไทย เริ่มต้นแต่ความลักลั่นของแผนสั่งซื้อที่เลือกเพียงเจ้าเดียว เมื่อเกิดการระบาดอย่างไม่คาดคิดจึงต้องวิ่งเต้นหาวัคซีนมาเสริมในราคาแพงกว่าปกติ
ยังมีประเด็นการวิจารณ์กระบวนการผลิตวัคซีน ที่กลายเป็นเรื่องฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 (ม.112) ไปเสียอย่างนั้น
ขณะที่พลเมืองทั่วโลกได้รับวัคซีนกันไปมากกว่า 650 ล้านโดส ประชากรไทยยังมองอนาคตกันไม่ค่อยเห็นว่าพวกเขาจะได้ฉีดกันเมื่อไหร่ ไม่นับว่า 'คลัสเตอร์สถานบันเทิง' รอบใหม่ ทำให้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ใช้ไม้แข็ง(อีกครั้ง) "สั่งปิดสถานบริการ ผับ บาร์ สถานบันเทิง ในพื้นที่ 3 เขต จำนวน 196 ร้าน 14 วัน (ตั้งแต่วันที่ 6 – 19 เม.ย. 64)"
ตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข นับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. - 3 เม.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลจัดฉีดวัคซีนไปแล้วทั้งสิ้น 244,254 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 201,864 ราย และครบสองเข็ม 42,360 ราย
โดยระบุว่า "ถือว่าฉีดได้ตามเป้าหมาย ไม่ได้ล่าช้า" พร้อมระบุว่า ตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป จะมีวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้ามาเดือนละ 10 ล้านโดส ซึ่งจะช่วยให้การฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึงมากขึ้น
สถิติการฉีดวัคซีนแบบเวลาจริงของ Financial Times และ The New York Times ที่อ้างอิงข้อมูลดิบจากโครงการ Our World in Data ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในอังกฤษ พบว่า ตามข้อมูล ณ 3 เม.ย. อิสราเอล ถือเป็นประเทศที่มีสัดส่วนผู้ได้รับวัคซีนสูงที่สุดของโลก
พลเมืองอิสราเอลได้รับวัคซีนถึง 111.3 โดส ต่อประชากร 100 คน คิดเป็นจำนวนวัคซีนที่ฉีดให้กับพลเมืองทั้งสิ้นกว่า 10.1 ล้านโดส ขณะที่จำนวนประชากรรวมมีราว 8.7 ล้านคน
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตามมาในลำดับที่สอง ด้วยสัดส่วน 87.6 โดส ต่อประชากร 100 คน คิดเป็นจำนวนวัคซีนทั้งหมด 8.6 ล้านโดส ขณะที่ตัวเลขประชากรรวมคือ 9.9 ล้านคน
ลำดับที่ 3 ได้แก่ประเทศภูฏาน ในสัดส่วน 60.2 โดส ต่อประชากร 100 คน ตามมาด้วยชิลี, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ในสัดส่วน 56.9, 55.2 และ 49.8 โดส ต่อประชากร 100 คน
สำหรับสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก รัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศ แจกจ่ายวัคซีนไปแล้วกว่า 36.9 และ 163.6 ล้านโดส ตามลำดับ
สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รัฐบาลสิงคโปร์ถือว่าทำหน้าที่ในการแจกจ่ายวัคซีนได้มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยสัดส่วน 23.1 โดส ต่อประชากร 100 คน คิดเป็นจำนวนวัคซีน 1.3 ล้านโดส กับตัวเลขประชากรรวม 5.8 ล้านคน
ขณะที่ประเทศไทยนับข้อมูลถึงวันที่ 30 มี.ค. มีสัดส่วนการได้รับวัคซีนเพียง 0.3 โดส ต่อประชากร 100 คน เป็นรองประเทศในอาเซียนเกือบทั้งหมดเว้นแค่เพียง เวียดนาม และ บรูไน ที่มีสัดส่วนจำนวนโดสวัคซีนต่อประชากร 100 คน ที่ 0.05 และ 0.08 ตามลำดับ
ขณะที่ประเทศอื่นอย่างเมียนมา, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, มาเลเซีย และอินโดนีเซียล้วนมีสัดส่วนการแจกจ่ายวัคซีนไปสู่พลเมืองของประเทศมากกว่าไทยทั้งสิ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง;