ต่างประเทศ
ยูเครนยันเงื่อนไขเจรจารัสเซีย ต้องขึ้นอยู่กับเรื่อง ‘บูรณภาพแห่งดินแดน’
โอเลกซีย์ ดานิลอฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติยูเครน กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (8 พ.ย.) ว่า ฝ่ายยูเครนยังต้องการ "การรับประกัน" ของระบบป้องกันภัยทางอากาศ เครื่องบิน รถถัง และขีปนาวุธพิสัยไกลที่ทันสมัยจากทางฝั่งพันธมิตรตะวันตก เพื่อใช้รับมือกับการรุกรานของรัสเซีย
“เงื่อนไขหลักของประธานาธิบดียูเครน คือ การฟื้นฟูบูรณภาพแห่งดินแดนยูเครน” ดานิลอฟทวีตข้อความลงในทวิตเตอร์ส่วนตัว “การรับประกัน ได้แก่ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ เครื่องบิน รถถัง และขีปนาวุธพิสัยไกลที่ทันสมัย กลยุทธ์ขั้นตอนเชิงรุก ขีปนาวุธของรัสเซียจะต้องถูกทำลาย ก่อนถูกยิงขึ้นสู่อากาศ บนบก และในทะเล” ดานิคอฟกล่าว
การออกมากล่าวในครั้งล่าสุดของดานิลอฟ เกิดขึ้นหลังจากที่ โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวในการแถลงเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา (7 พ.ย.) ว่า ตนพร้อมเปิดกว้างสำหรับการเจรจา “ที่แท้จริง” กับรัสเซียเพื่อฟื้นฟูพรมแดนของยูเครน
นอกจากนี้ เซเลนสกียังเรียกร้องค่าปฏิกรรมสงคราม หลังจากการทำลายล้างหลังโจมตีของรัสเซียบนแผ่นดินยูเครน ทั้งนี้ ประธานาธิบดียูเครนได้เรียกร้องให้ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ ต่อข้อกล่าวหาการก่ออาชญากรรมสงครามให้ถูกนำตัวมาลงโทษ
ประเด็นการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง เป็นที่ถูกพูดถึงเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่หนังสือพิมพ์ The Washington Post รายงานว่า สหรัฐฯ ได้ให้คำแนะนำในทางลับแก่เจ้าหน้าที่ทางฝ่ายยูเครน ให้ส่งสัญญาณการเปิดกว้างเพื่อการพูดคุยเจรจากับรัสเซีย
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ต้องการให้ยูเครนถือศีลธรรมที่เหนือกว่า และแสดงออกถึงความสนใจในการเจรจากับทางรัสเซียให้มากขึ้น ท่ามกลางความกังวลว่ายูเครนอาจสูญเสียการสนับสนุนจากพันธมิตรตะวันตกในไม่ช้า หากยังคงยืนกรานต่อต้านการเจรจา เนื่องจากสงครามอันยืดเยื้ออาจก่อให้เกิด “ความเหนื่อยล้า” ในบรรดาชาติพันธมิตร ที่กำลังเผชิญกับวิกฤตพลังงาน อาหาร และเศรษฐกิจ
หลังจากรัสเซียประกาศผนวกดินแดน 4 แห่ง ที่ถูกยึดครองบางส่วนไปจากยูเครน เมื่อช่วงสิ้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เซเลนสกีกล่าวว่า ยูเครนจะไม่จัดการเจรจากับรัสเซีย ตราบใดที่ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียยังคงอยู่ในอำนาจ ก่อนที่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ยูเครนจะออกมาทบทวนท่าทีของตน แต่ยังคงประกาศว่าตนจะเจรจากับผู้นำที่ขึ้นมาสืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียต่อจากปูติน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกสำนักประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่ารัสเซียพร้อมสำหรับการเจรจา แต่ยูเครนเองเป็นฝ่ายปฏิเสธการพูดคุย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของทางการรัสเซียพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า พวกตนจะไม่เจรจาในประเด็นดินแดนที่พวกตนอ้างว่าได้ผนวกมาจากยูเครน
นอกจากเกาหลีเหนือที่เป็นพันธมิตรกับรัสเซียแล้ว ยังไม่มีประเทศใดที่ยอมรับการผนวก 4 ดิแดนยูเครนเข้าเป็นของรัสเซียในครั้งล่าสุด ประชาคมโลกส่วนใหญ่ยังปฏิเสธการให้การยอมรับพื้นที่ไครเมีย ซึ่งถูกผนวกเข้ากับดินแดนของรัสเซียในปี 2557 ว่าเป็นดินแดนของรัสเซีย
ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของยูเครน กำลังจัดการเลือกตั้งกลางเทอมในช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (8 พ.ย.) และกำลังมีการนับคะแนนกันอยู่ แม้ว่าผู้สมัครจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะยังคงให้การสนับสนุนยูเครนอย่างแข็งขัน
อย่างไรก็ดี ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันฝ่ายขวาบางคน ได้แสดงความสงสัยเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ต่อยูเครน ในขณะที่คนอื่นๆ ที่ผู้สมัครฝ่ายซ้ายเผชิญหน้ากันกับเรียกร้องให้สหรัฐฯ มีการทูตที่ “เข้มแข็ง” เพื่อยุติสงครามยูเครน ทั้งนี้ ทำเนียบขาวกล่าวว่า การสนับสนุนของสหรัฐฯ แก่ยูเครนจะ “ไม่สั่นคลอนและไม่เปลี่ยนแปลง” โดยไม่คำนึงถึงผลการลงคะแนนในการเลือกตั้งกลางเทอมของตนแต่อย่างใด
ที่มา:
