ไม่พบผลการค้นหา
'จตุพร' ลั่นวิธีเดียวที่จะแก้ไขปัญหาชาติ "3 ป.ต้องออกไปพร้อมกัน ไม่ใช่ ป.ประยุทธ์ ไป ป.ประวิตร มามันเป็นเรื่องหลอก-มองใครก็ได้ 'อุ๊งอิ๊งค์ พิธา อนุทิน หญิงหน่อย จุรินทร์" ย่อมจะดีกว่าผู้นำวันนี้

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2565 จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. แสดงความเห็นกรณีที่ แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ชวนคนเสื้อแดงกลับบ้านมาร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศทวงคืนอำนาจรัฐด้วยการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ว่า ตนถือว่าเป็นคำเชิญชวน แต่เราต้องยอมรับความเป็นจริงในช่วง 15 ปีมานี้ จนวันนี้คนเสื้อแดงเป็นมนุษย์ที่ได้รับความอยุติธรรมมากที่สุดถูกปราบปรามเข่นฆ่ามากกว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ฉะนั้นในช่วง 15 ปีนี้ที่คนเสื้อแดงลุกขึ้นมาต่อสู้และส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย ซึ่งตนคิดและพูดเสมอเราไม่ได้สู้เพื่อชัยชนะทุกวันนี้ แต่เป็นการสู้เพื่อมอบให้ลูกหลานในอนาคตที่จะไม่ได้รับชะตากรรมอย่างคนในรุ่นเรา 

ดังนั้นก็เป็นสิทธิของ แพทองธาร ที่จะชวนคนเสื้อแดงกลับ ซึ่งต้องยอมรับความเป็นจริงว่า วันนี้คนเสื้อแดงก็ไปที่ต่างๆมากมาย ดังนั้นก็อยู่ที่คนเสื้อแดงแต่ละคนจะตัดสินใจอย่างไร รวมทั้งส่วนอื่นๆก็สามารถชวนได้แต่ตนถือว่า นี่เป็นปรากฏการณ์และสิทธิที่สามารถทำได้

เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยชู แพทองธาร เป็นแคนดิเดตนายกฯ จะนำไปสู่ซ้ำรอยการรัฐหารหรือไม่ ประธาน นปช. ระบุว่า ตนอยากให้มองเป็นปรากฏการณ์ปกติ เมื่อมีการเขียนกฎกติกาอายุ 35 ปีเป็นนายกฯได้ เพราะฉะนั้นถ้าได้รับเลือกตั้งและได้เสียเกินกึ่งหนึ่งของสภา แต่ก็ยังมีกับดักอยู่ข้างหน้ามากมาย ฉะนั้นอยากให้มองเป็นปรากฏการณ์ปกติเราเคารพเรื่องการตัดสินใจของประชาชน ใครก็มีสิทธิเป็นได้ทั้ง แพทองธาร พล.อ.ประยุทธ์ หรือใครๆอยู่ที่ประชาชน ซึ่งวันนี้ที่เห็นอาจยังไม่ใช่ ที่ใช่อาจยังไม่เห็น เพราะของจริงยังไม่เห็น ที่เห็นเป็นของหลอกทั้งนั้น

เมื่อถามว่าถ้าแพทองธาร ได้เป็นนายกฯ จะนำไปสู่เหตุการณ์เดียวกับ ทักษิณ หรือยิ่งลักษณ์ หรือไม่ จตุพร กล่าวว่า ตนเชื่อว่าถ้าเป็นอย่างนั้น แพทองธาร ก็ต้องมีบทเรียนที่สำคัญรู้ว่า เดินไปแบบไหนจะเจออะไร ดังนั้นแม้เรื่องนี้จะยังไม่เกิดขึ้นแต่บทเรียนในอดีตทำให้รู้ว่าจะทำอย่างไรถ้าเดินไปจุดนั้น ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็ยังมีสิทธิ ถ้ายังไม่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 

เมื่อถามมองอนาคต พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรเพราะตอนนี้ถูดติงเรื่องการแก้ปัญหาปากท้อง จตุพร กล่าวว่า ตนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะแก้ไขปัญหาขาติได้เลย และที่สำคัญที่สุดการพาประเทศไปเข้าข้างกับประเทศมหาอำนาจนั้นจะเกิดผลร้ายซึ่งประเทศไทยควรอยู่บนการสร้างความสมดุล ฉะนั้นตนอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ดูแววตาของประชาชนว่า ควรจะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ต่อไปหรือไม่ คือถ้าไม่สามารถสร้างความผาสุขได้ ก็ควรเสียสละให้ประเทศไทย เหมือนคนไทยที่เสียสละให้เป็นมาแล้ว 8 ปี

เมื่อถามย้ำว่าประเทศไทยควรเปลี่ยนแปลงอำนาจหรือยัง ประธาน นปช. เชื่อว่า คนใหม่ที่มาย่อมจะดีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าเป็นใครก็ตาม อาทิ แพทองธาร พิธา อนุทิน คุณหญิงสุดารัตน์ จุรินทร์ หรือใครก็ได้ที่ประชาชนตัดสินใจ เพราะว่าอย่างน้อยมันจะมีแรงบันดาลใจไม่ย่ำอยู่กับที่เหมือน พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องผ่านด่านอีกมากมาย อาทิ ส.ว. หรือชนะอาจจะถูกยุบพรรคก็เป็นได้ ซึ่งไม่ง่ายแต่ทุกคนมีสิทธิเสนอตัว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร จตุพร ระบุว่า ยุทธการแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น และไม่เป็นผลดี เขาครองรักกันมายาวนานและมันไม่เป็นประโยชน์

"ต่อให้ 100 พล.อ.ประวิตร 100 พล.อ.ประยุทธ์ วันนี้ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาชาติได้ เพียงแต่ว่าเราต้องการความหวัง และผมเชื่อว่าประยุทธ์กับประวิตร ถึงที่สุดแล้ว จะไม่มีวันทะเลาะกันจริงๆ มีเพียงเหยื่อบางคนที่หลงเชื่อเท่านั้น และสร้างความรู้สึกเป็นชั่วครั้งชั่วคราวว่า 2 คนนี้จะแยกจากกัน เขาอยู่กันมายาวนานแผนนี้ไม่มีวันสำเร็จ" 

เพราะฉะนั้นวิธีการเดียวที่จะแก้ไขปัญหาได้คือ " 3 ป.จะต้องไปพร้อมๆกัน ไม่ใช่ ป.ประยุทธ์ไป ป.ประวิตร มา มันเป็นเรื่องการหลอกสำหรับคนที่โง่เท่านั้นว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น"