วันที่ 2 ต.ค. 2565 จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวถึงแนวทางการเคลื่อนไหวของคณะหลอมรวม หลัง พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยยืนยันว่า จะรวมพลังเพื่อทำให้ประชาชนหูตาสว่าง โดยการเดินสายจัดรายการทุกวัน เวลา 8.00 น. และวันที่ 16 ต.ค. จะนัดหมายเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ให้ประชาชนได้ตาสว่าง และเห็นกระบวนความคิดของกลุ่ม 3 ป. เพราะที่ผ่านมาเห็นแล้วว่าการระดมมวลชนเพื่อชุมนุมนั้นไม่ได้ผล ยิ่งชุมนุมยิ่งทำให้ระบบ 3 ป. อยู่ได้ยาว

ดังนั้น ขอให้ผู้สนับสนุนเข้าใจว่า จตุพร และ ทนายนกเขา รวมถึงคนอื่นๆ ยังต้องการจะล้มระบบ 3 ป. ไม่สนใจว่าใครจะเบื่อหรือไม่เบื่อ แต่หลังจากให้ข้อมูลประชาชนแล้ว จะได้เข้าใจวัตถุประสงค์ของคณะหลอมรวมฯ

จตุพร ยังกล่าวถึงมาตรฐาน และกฎหมายที่ใช้ควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเฉพาะกลุ่มหน้าทำเนียบรัฐบาล ย้ำว่า ประชาชนที่เดือดร้อนจริงๆ ก็สามารถมาใช้พื้นที่หน้าทำเนียบในการเรียกร้องได้ แต่ควรมีมาตรฐานเดียวกัน ไม่ใช่พอประชาชนบางกลุ่มไปชุมนุมใกล้ทำเนียบไม่กี่วัน ก็เอา คฝ. มาไล่และจับดำเนินคดี

"เรื่องนี้ไม่ต้องพูดเยอะ คนที่รู้เขาก็รู้ ว่าม็อบไหนมีเส้นไม่มีเส้น ให้ไปถาม พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อกลุ่มหนึ่งชุมนุมอยู่ยาวได้ วันข้างหน้ามีกลุ่มอื่นมาเรียกร้องก็ควรให้เขาได้ใช้สิทธิ เจ้าหน้าที่มีบทบาทแค่อำนวยความสะดวก"

จตุพร ยัวกล่าวว่า จนถึงตอนนี้ ตนก็ยังไม่เชื่อว่า ปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง ในปีหน้าหลัง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่จนครบวาระ การเลือกตั้งก็ยังไม่เกิดขึ้น เพราะมีข้อสังเกตที่ส่งสัญญาณหลายอย่าง เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะในส่วนของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ยังไม่แล้วเสร็จ ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาฯ ก็ยิ่งเคี้ยวง่าย อยู่เป็นนายกรักษาการฯ ไปจนถึงปี 2568 

"เพราะวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ หรือพรรคพลังประชารัฐ ได้เห็นแล้วว่า เลือกตั้งไปมีแต่แพ้กับแพ้พรรคเพื่อไทย ดังนั้น การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกรักษาการไปถึงปี 2568 เป็นทางเดียวในการรักษาอำนาจของ 3 ป."

สำหรับการชุมนุมของกลุ่มราษฎรเมื่อวาน ที่ได้มีการประกาศแถลงการณ์ว่า จะต้องรอพิพากษาชะตากรรมของกลุ่ม 3 ป. ในการเลือกตั้งนั้น นายจตุพร มองว่า เป็นสิทธิทางความคิดของแต่ละคนว่าจะเชื่ออย่างไร ขอให้รอดูวันที่ 24 มี.ค. นี้ จะได้เห็นสัญญาณเองว่าคนไทยจะได้เลือกตั้งหรือไม่ 

พร้อมเน้นย้ำว่า คณะหลอมรวมฯ ยังมีจุดยืนของกลุ่ม การจะไปร่วมกับกลุ่มอื่นก็จะต้องหารือและไตร่ตรองร่วมกันก่อน แต่ก็ไม่เคยปิดประตูบานไหน เพราะเชื่อว่าการต่อต้านรัฐประหาร และเครือข่าย 3 ป. ของคณะหลอมรวมประชาชนอยู่แล้ว