นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงการติดตามคำร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ 41 ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล กรณีถือหุ้นสื่อ ตามมาตรา 98(3) ที่ถูกส่งไปศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า พรรคอนาคตใหม่กำลังติดตามบรรทัดฐานการพิจารณาของ 41 ส.ส. ซึ่งหากเทียบกับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ที่ศาลมีมติรับคำร้องไว้พิจารณาและสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ชั่วคราว ภายใน 7 วันหลังยื่นศาล
ดังนั้น หากกรณีของ 41 ส.ส. ไปในทิศทางเดียวกัน ภายในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ ก็ต้องมีคำสั่งเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ยังคล้ายกับกรณีของนายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส. สกลนคร เขต 2 ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ตัดสิทธิสมัครเลือกตั้ง เนื่องจากใบบริคณห์สนธิ ระบุว่าทำสื่อ แต่ในทางปฏิบัตินั้นประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองที่ฝ่ายรัฐบาลอยู่ระหว่างการต่อรองเก้าอี้นั้น อนาคตใหม่ก็จะเดินหน้าทำงานอย่างยึดโยงกันทั้งในและนอกสภา ส.ส.แต่ละพื้นที่ได้ลงรับฟังปัญหาประชาชน เพื่อนำไปขับเคลื่อนแก้ปัญหาในสภาต่อไป ทั้งยังมีการจัดเสวนา เรื่องปัญหาประมง การกระจายอำนาจ และเปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ในแต่ละพื้นที่
น.พ.วาโย อัศวรุ่งเรือง รองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การเมืองเก่าใช้ช่องทางตามกฎหมายโจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างที่เคยทำ ซึ่งอนาคตใหม่ไม่เห็นด้วยกับการใช้สาระในบริคณห์สนธิ ฐานประกอบกิจการสื่อมาโจมตีกัน เพราะเจตนารมย์ของกฎหมายมีไว้เพื่อไม่ให้ ส.ส.ครอบงำสื่อ ไม่ใช่กำหนดอยู่ในแบบฟอร์มแต่ไม่ได้ทำ
ยกตัวอย่างกรณีนายภูเบศวร์นั้นชัดเจนว่าทำเรื่องรับเหมาก่อสร้าง ส่วนกรณีของนายธนาธรนั้นโอนหุ้นแล้ว แตกต่างกับกรณีของ 41 ส.ส. ที่ชัดเจนว่า ยังคงถือหุ้นบริษัทตามที่กำหนดในใบบริคณสนธิห์ ทั้งที่เข้าทำหน้าที่ ส.ส.แล้ว การร้องเรียนทั้งหมดต้องการทำเพื่อให้ผู้มีอำนาจเห็นว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น และต้องการให้ประชาชนเห็นถึงบรรทัดฐานของกระบวนการยุติธรรม ส่วนจะมีท่าทีอย่างไรต่อไปนั้น ต้องรอดูวันที่ 19 มิ.ย.นี้ว่า จะมีผลออกมาอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าววันนี้ พรรคอนาคตใหม่ น.พ.วาโยได้แนะนำรองโฆษกพรรคเพิ่มเติม 2 คน คือนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และน.พ.เอกภพ เพียรวิเศษ ส.ส.เชียงราย ซึ่งจะคอยมาช่วยทำหน้าที่แถลงข่าวชี้แจงเป็นประจำทุกสัปดาห์ เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ
อ่านเพิ่มเติม