นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกันของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน 7 พรรค โดยระบุว่า ทั้ง 7 พรรคจะทำงานเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และอีกกลุ่มจะมีคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบโดยส่งตัวแทนพรรคละ 2 คนร่วมประชุม มีนายทวี สอดส่อง จากพรรคประชาชาติ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล จากพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ประสานการทำงาน โดยจะหาทางประสานการทำงานกับประชาชน สถาบันวิชาการ องค์กรภาคประชาชนและสื่อมวลชนเพื่อกำหนดแนวทางร่วมมือแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นปัญหาสำคัญ จากกฎกติกาที่ถูกสร้างขึ้นโดยไม่เป็นประชาธิปไตย
นอกจากนี้ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยังได้คิดร่วมกันว่าจะทำกิจกรรมอีกหลายเรื่อง เช่นการตรวจสอบคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีคุณสมบัติ ส.ว. และส.ส. รวมถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น โดย 7 พรรคจะประชุมต่อเนื่องเพื่อหาจุดร่วมกันและจะขยายผลไปยังผู้แทนระดับหัวหน้าพรรคให้เข้าร่วมประชุมเพื่อตัดสินใจกำหนดยุทธศาสตร์และทิศทาง การทำงานร่วมกันของพรรคฝ่ายค้านทั้งหมด
นายชัยธวัช ตุลาธน รองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่าการตั้งคณะทำงานร่วมของทั้ง 7 พรรค ไม่ได้ต้องการขับเคลื่อนการเมืองบนท้องถนนแต่ต้องการสร้างมิติใหม่ในการทำงานทางการเมืองเพื่อผลักดันสร้างประชาธิปไตยในระยะเปลี่ยนผ่านโดยสันติ พร้อมสร้างการเมืองแบบใหม่เชื่อมโยงการเมืองในสภาและนอกสภา รวมถึงตรวจสอบประกาศคำสั่งคสช.ที่ผ่านมาด้วย ซึ่งยังไม่มีแนวโน้มที่จะยุติการใช้แม้จะมีรัฐบาลใหม่แล้วก็ตาม
นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นร่วมกับภาคประชาชน พร้อมยืนยันว่า รัฐธรรมนูญให้อำนาจรัฐสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี และสมาชิกวุฒิสภาจะต้องไม่ฝักใฝ่อยู่ใต้อาณัติของผู้ใด แต่พบว่าการเลือกนายกรัฐมนตรี กลับไม่เป็นธรรมไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญปี 2560 ทั้งมาตรา 113 และมาตรา 114
ตัวแทนพรรคประชาชาติ ยืนยันจะติดตามการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และจะผนึกกำลังกับภาคประชาชนเช่น เครือข่าย วีแฟร์ เครือข่ายแรงงานนอกระบบเครือข่ายสลัม 4 ภาคเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดพลัง
นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย จะทำงานให้เต็มที่เพื่อตอบสนองพี่น้องประชาชนที่ได้รับความไว้วางใจ โดยตรวจสอบรัฐบาล ตรวจสอบนายกรัฐมนตรีจะร่วมงานกับพรรคฝ่ายค้านให้เต็มที่ ยืนยันการทำงานต้องยึดประโยชน์ของประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง