CNBC สื่อสหรัฐฯรายงานว่า งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจจะมีมากกว่าหมื่นรายที่ยังไม่ได้ตรวจหาเชื้อ เนื่องจากอัตราการตรวจหาเชื้อในประเทศต่างๆในภูมิภาคนี้มีอัตราที่ต่ำมากอย่างในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ที่ประชากรในหลักร้อยล้านคน
ไซมอน เทย์ ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายต่างประเทศของสิงคโปร์กล่าวว่า "ข้อเท็จจริงในตอนนี้คือจำนวนผู้ติดเชื้อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว รัฐบาลต้องเร็วควบคุมการแพร่ระบาดนี้และต้องลงมือทำตอนนี้ ตัวเลขการตรวจหาผู้ติดเชื้อในฟิลิปปินส์ยังต่ำและในอินโดนีเซียนั้นการตรวจหาผู้ติดเชื้อก็ยังน้อยเกินไปมาก"
รายงานการตรวจเชื้อโควิด-19 จากเว็บไซต์ worldometers แสดงให้เห็นว่าอัตรการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นอยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศในทวีปยุโรป หรือในเกาหลีใต้ โดยประเทศในภูมิภาคนี้ที่มีอัตรกาารตรวจหาเชื้อต่อประชากร 1,000,000 ล้านที่น้อยที่สุดคือ เมียนมา โดยมีการตรวจหาเชื้อเพียง 86 คนต่อประชากร 1 ล้านคนเท่านั้น
ทางด้านประเทศที่มีประชากรเยอะที่สุดในภูมิภาคอย่าง อินโดนีเซีย ประเทศที่มีประชากรกว่า 270 ล้านคน ที่ผ่านมามีการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อได้ประมาณ 42,000 คนเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับอัตรส่วนประชากร 1 ล้านคนอินโดนีเซียพบว่ามีการตรวจหาเชื้อเพียง 182 คนเท่านั้น ปัจจุบันอินโดนีเซียมีรายงานผู้ติดเชื้อแล้ว 6,760 ราย
เจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียกล่าวว่า 'ทางการอินโดฯตั้งเป้าจะตรวจหาผู้ติดเชื้อได้ 10,000 รายต่อวัน และคาดว่าผู้ติดเชื้อในอินโดนีเซียอาจจะพุงสุงถึง 95,000 รายในช่วงของการแพร่ระบาดนี้'
ขณะที่ประเทศไทย นั้นที่ผ่านมามีการตรวจหาผู้ติดเชื้อไปแล้วทั้งสิ้น 142,589 รายและมีตรวจพบผู้ติดเชื้อ 2,811 ราย แต่ทั้งนี้เมื่อเทียบกับอัตราส่วนต่อประชากร 1 ล้านคนพบว่าใน 1 ล้านคนมีการตรวจหาเชื้อเพียง 2,043 รายเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในภูมิภาคนี้มีเพียง สิงคโปร์ ประเทศเดียวที่มีอัตราส่วนการค้นหาผู้ติดเชื้อใกล้เคียงกับการตรวจหาผู้ติดเชื้อในทวีปยุโรป โดยสถิติระบุว่าในอัตราส่วนประชากร 1 ล้านคน สิงคโปร์ตรวจหาเชื้อแล้ว 16,203 คน โดยสิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อแล้ว 9,125 ราย ทั้งนี้อัตราส่วนการค้นหาผู้ติดเชื้อของสิงคโปร์นั้นมีมากกว่าเกาหลีใต้ที่มีอัตราส่วนการตรวจอยู่ที่ 11,138 คนต่อประชากร 1 ล้านคนและใกล้เคียงกับประเทศสเปนประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในยุโรป โดยสเปนมีอัตรการตรวจอยู่ที่ 19,896 ต่อประชากร 1 ล้านคน ขณะที่สเปนมีรายงานผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 200,210 ราย
สำหรับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากอย่าง อิตาลี มีอัตราการตรวจอยู่ที่ 23,122 คนต่อประชากร 1 ล้านคนและอิตาลีมีการตรวจหาผู้ติดเชื้อไปแล้วทั้งสิ้น 1,398,024 โดยอิตาลีค้นพบผู้ติดเชื้อแล้ว 181,228 ราย หรือในเยอรมนีที่มีการตรวจหาผู้ติดเชื้อไปแล้วมากกว่า 1,728,000 ราย และเมื่อคิดเป็นอัตราส่วนต่อประชากร 1 ล้านคนของเยอมรนีมีตรวจหาเชื้อถึง 20,629 คน
เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา องคฺ์การอยนามัยโลก (WHO) แนะให้ทุกประเทศทั่วโลกเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการหยุดวงจรการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งหากไม่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อก็จะไม่สามารถหยุดการแพร่กระจายหรือการส่งต่อเชื้อได้
"พวกเราแนะนำให้ทุกประเทศ 'ตรวจ ตรวจ และตรวจ' กับทุกๆคนต้องสงสัย หากไม่ตรวจพบผู้ติดเชื้อก็ไม่สามารถกักตัวและวงจรการแพร่ระบาดก็จะไม่ถูกทำลาย" ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการของ WHO กล่าว
ประเทศที่มีการตรวจหาผู้ติดเชื้ออย่างกว้างขวางตั้งแต่เริ่มแรกของการระบาดอย่างเกาหลีใต้นั้นก็สามารถชะลอการแพร่ระบาดได้ภายใน 3 สัปดาห์และในสัปดาห์นี้เกาหลีใต้ก็คลายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวดในสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงมีการจัดการเลือกตั้งและการอนุญาตให้โบสถ์กลับมาประกอบพิธีทางศาสนาได้อีกครั้ง
ขณะที่ในยุโรปเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์หลังจากพบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันนั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเยอรมนีจะเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ในสัปดาห์หน้า ขณะที่ประเทศสเปนอนุญาตให้ประชาชนบางส่วนกลับไปทำงานได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง