ไม่พบผลการค้นหา
'ก้าวไกล' ยังพยายามเดินหน้า แม้ 'วันนอร์' ปิดทางเสนอทบทวนมติ ชี้หากรัฐสภาแก้ไขเรื่องพลาดไม่ได้ จะเป็นอันตราย สวนกลับ 'เพื่อไทย' นโยบายแก้ รธน. แค่หาเสียงหรือไม่

วันที่ 18 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยหลังการประชุมหารือ วิป 3 ฝ่าย โดยระบุว่า พรรคก้าวไกลได้เวลาอภิปราย 30 นาที ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 ส.ค. นี้ และยังไม่ได้ตกลงในรายละเอียดว่าจะมีใครเป็นผู้อภิปรายบ้างหรือจะใช้เวลาทั้งหมดหรือไม่ แต่จะเผื่อเวลา หากพรรคก้าวไกลถูกพาดพิง ซึ่งหวังว่าจะไม่มี เพราะคราวนี้พรรคไม่ได้เสนอชื่อแคนดิเดต 

ด้าน รังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเตรียมเสนอญัตติขอให้ทบทวนมติที่รัฐสภาเคยมี ซึ่งประธานรัฐสภายืนยันว่า จะไม่ให้มีการลงมติ เนื่องจากข้อบังคับที่ 151 มีคำว่าเด็ดขาด ซึ่งประธานรัฐสภาตีความว่า จะเห็นเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ซึ่งพรรคก้าวไกลได้ทักท้วงในที่ประชุมว่า ว่าหากมติของรัฐสภาไม่สามารถแก้ไขได้ในภายหลังก็อาจจะมีปัญหาอันตรายตามมา 

รังสิมันต์ ยังมองว่า ฝ่ายกฎหมายของรัฐสภามีความเนห็ว่าพรรคก้าวไกลมีจุดประสงค์เสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ซ้ำหรือไม่ โดยยืนยันว่า พรรคต้องการรักษาหลักการ เพียงแค่ให้สภามีการแก้ไขมติที่เคยผิดพลาดไป 

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อประธานรัฐสภา ชัดเจนแล้วว่า จะไม่ให้มีการพิจารณาเรื่องนี้ ก็คงต้องมีการพยายามพูดคุยในที่ประชุมต่อไป "เราจะทำอย่างเต็มที่ แต่จะได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น"

เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่อาจจะเกิดอุปสรรค หลังพรรครวมไทยสร้างชาติมาร่งมจัดตั้งรัฐบาล รังสิมันต์ โรม มองว่า ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยเองก็ได้มีนโยบายเพื่อที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับอยู่แล้ว แต่เมื่อมีพรรครวมไทยสร้างชาติเข้ามา จะต้องกลับไปถามพรรคเพื่อไทยว่าตกลงแล้วจะเอาอย่างไร หรือเป็นการกล่าวอ้างว่าการแก้ไขจำนวนเป็นเพียงการหาคะแนนเสียง ไม่ใช่เป็นการให้คำมั่นสัญญา 

ในส่วนพรรคก้าวไกลเอง ชัดเจนว่าจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ซึ่งรัฐธรรมนูญที่ก้าวออกจาก คสช. ทั้งนี้ รังสิมันต์ ยอมรับว่า มีความกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 จะมีอุปสรรค แต่อย่างไรก็ตาม ต้องให้พรรคเพื่อไทยได้พิสูจน์ เพราะได้หาเสียงเอาไว้