ในการกล่าวสุนทรพจน์หลังสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันเป็นสมัยที่ 2 และถือเป็นสมัยสุดท้าย 'ไช่อิงเหวิน' ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและจีนได้มาถึงจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ ทั้งสองฝ่ายมีหน้าที่ต้องหาหนทางในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบในระยะยาว และป้องกันไม่ให้ความเป็นปรปักษ์และความแตกต่างรุนแรงยิ่งขึ้น โดยระบุว่าไต้หวันต้องการมีส่วนร่วมในการเจรจากับรัฐบาลจีน และให้การสนับสนุนที่เป็นรูปธรรมที่มากขึ้นต่อความมั่นคงในภูมิภาค
พร้อมกันนีิ้ ไช่อิงเหวินยังย้ำว่า จะเดินหน้านโยบายความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบบนพื้นฐาน “สันติภาพ ความเสมอภาค ประชาธิปไตย และการเจรจา” ซึ่งเป็นหลักการที่เธอให้ความสำคัญระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก โดยไต้หวันจะไม่ยอมรับหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ของจีนที่ยืนกรานว่าไต้หวันเป็นดินแดนของจีน ลดความสำคัญของไต้หวันหรือบ่อนทำลายสถานภาพปัจจุบันของความสัมพันธ์ไต้หวัน-จีน
ไช่อิงเหวินและพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา
การได้รับเลือกตั้งอีกครั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถูกมองว่าไช่อิงเหวินได้รับมอบอำนาจจากประชาชนให้รัฐบาลของเธอจัดการความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบกับจีน ซึ่งอ้างว่ามีอำนาจอธิปไตยเหนือไต้หวัน รวมถึงกำลังเพิ่มแรงกดดันเพื่อให้เกิดการรวมชาติกับจีนแผ่นดินใหญ่ และยังขู่ว่าจะใช้กำลังนำเกาะไต้หวันเข้าไปอยู่ใต้การปกครองของรัฐบาลจีนหากจำเป็น ซึ่งนับตั้งแต่ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง จีนก็ได้เพิ่มการฝึกซ้อมทางทหารบริเวณใกล้กับไต้หวัน โดยมีรายงานเครื่องบินขับไล่ของจีนรุกล้ำน่านฟ้าไต้หวันมาแล้ว
ขณะเดียวกัน ไช่อิงเหวินยังระบุว่า ไต้หวันจะเดินหน้าการต่อสู้เพื่อเข้าร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงพัฒนาความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ญี่ปุ่นยุโรป และประเทศอื่นๆ ที่มีแนวคิดคล้ายกัน โดยรายงานระบุว่าเมื่อวานนี้ 'ไมค์ ปอมเปโอ' รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีถึงประธานาธิบดีไช่ ชื่นชมในความกล้าหาญและวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำประชาธิปไตยของไต้หวัน รวมถึงแสดงความมั่นใจว่าความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวันภายใต้การนำของไช่อิงเหวินจะงอกงามต่อไป ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวันระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ส่งสาส์นแสดงความยินดีถึงประธานาธิบดีไต้หวัน
ทั้งนี้ จีนใช้นโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ซึ่งรับรองสิทธิในการปกครองตัวเองขั้นสูงในการปกครองฮ่องกงที่กลับคืนสู่จีนเมื่อปี 2540 และต้องการจะใช้หลักการเดียวกันนี้กับไต้หวัน แต่พรรคการเมืองใหญ่ทุกพรรคของไต้หวันปฏิเสธ โดยประธานาธิบดีไช่อิงเหวินระบุว่าไต้หวันเป็นรัฐอิสระที่ชื่อว่า “สาธารณรัฐจีน” และไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ปกครองโดยรัฐบาลที่กรุงปักกิ่ง
ขณะที่ล่าสุด ก็มีปฏิกิริยาจากรัฐบาลจีนต่อสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน โดยโฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีนระบุว่า เอกราชของไต้หวันขัดแย้งกับแนวโน้มต่างๆ ของปัจจุบันและเป็นเส้นทางที่นำไปสู่สิ่งที่ไม่มีอยู่จริง โดยจีนจะยึดมั่นกับหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” พร้อมย้ำว่าการรวมชาติของไต้หวันกับจีนเป็นความจำเป็นทางประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครหรือกำลังฝ่ายใดหยุดยั้งได้
ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนประณามสาส์นแสดงความยินดีของนายปอมเปโอถึงผู้นำไต้หวัน โดยบอกว่าเป็นการทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ โดยจีนจะดำเนินมาตรการตอบโต้ที่จำเป็น แต่ก็ไม่ได้มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติม
อ้างอิง CNA / SCMP / The Straits Times
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: