"ฉันขอชวนคุณมาเยือนไต้หวัน มาสัมผัสความอบอุ่นและไมตรีของผู้คนที่นี่ ระหว่างที่มาเที่ยวที่นี่ ทำไมไม่มาเป็นแขกของฉันแล้วค้างคืนที่ทำเนียบประธานาธิบดีแห่งนี้เลยล่ะ” ไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน กล่าวเป็นภาษาอังกฤษในวิดีโอโปรโมตโครงการทริปข้ามคืนที่ทำเนียบ
นี่คือโครงการที่เปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับเลือก 20 คน มาใช้เวลายามค่ำคืนที่ในอาคารสไตล์บาโรกอายุ 100 ปี ซึ่งเป็นแลนด์มาร์ก ณ ถนนฉงชิ่งใต้ ย่านจงเจิง ของไต้หวัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมจีนของไต้หวัน (General Association of Chinese Culture: GACC) ระบุในแถลงว่าโครงการค้างคืนที่ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน มีจุดมุ่งหมายในการเฉลิมฉลองวาระครอบรอบ 100 ปีของทำเนียบแห่งนี้ พร้อมปรับปรุงภาพลักษณ์จากเดิมที่เป็นสัญลักษณ์ของเผด็จการในสมัยเจียงไคเชก และโปรโมตไต้หวันเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นมิตรที่สุดในโลก
ผู้สมัครเข้าร่วมทริปนี้จะต้องมีอายุ 20 ขึ้นไป ไม่ใช่พลเมืองไต้หวัน และต้องเสนอแผนการท่องเที่ยวในไต้หวัน และวิดีโอแนะนำตัวว่าทำไมจึงสนใจมาเที่ยวที่นี่
ทางสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมจีน ระบุว่าโครงการนี้จะรับนักท่องเที่ยวทีละ 10 คู่ ในคืนแรก ทุกคนจะได้เข้าพักในห้องสวีทขนาด 46 ตารางเมตร ณ อาคารลี่ฉิง (Lixing Building) อาคารสองชั้นซึ่งมองเห็นทำเนียบได้ชัดเจน โดยจะมีโอกาสได้ใช้เวลาหนึ่งคืนในทำเนียบ โดยผลัดกันคราวละ 2 คนต่อหนึ่งคืน
ทั้งนี้ ผู้ได้รับคัดเลือกจะต้องมาถึงทำเนียบก่อนเวลา 4 ทุ่ม และออกจากทำเนียบหลังเวลาตี 5 เป็นต้นไปด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
ผู้สนใจสามารถสมัครได้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม ผ่านทางเว็บไซต์ภาษาอังกฤษ https://www.nightattaiwan.tw/en/index.php และจะประกาศผลในวันที่ 20 กันยายน ทำเนียบแห่งนี้จะเปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกในเดือนตุลาคม และดำเนินโครงการไปจนถึงเดือนมกราคมปี 2020
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทางไต้หวันยืนยันว่าตัวเองเป็นประเทศเอกราช ขณะที่จีนไม่ยอมรับ และนับว่าไต้หวันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของจีนเท่านั้น สำนักข่าวไทเปไทมส์ จึงได้ถามเซเวียร์ จาง โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีว่าโครงการนี้รับผู้สมัครสัญชาติจีนหรือไม่ จางตอบเพียงว่าโครงการนี้เปิดรับทุกคนที่มีหนังสือเดินทางที่ไม่ใช่ของสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และผ่านการคัดเลือก
อาคารแห่งนี้ สร้างเสร็จเมื่อ 100 ปีก่อน ในปี 1919 สมัยที่ยังถูกยึดครองโดยญี่ปุ่น เพื่อเป็นอาคารผู้สำเร็จราชการญี่ปุ่น ก่อนจะกลายมาเป็นทำเนียบประธานาธิบดีในปี 1950
ที่มา: Focus Taiwan / SCMP / Taipei Times
ข่าวที่เกี่ยวข้อง;