ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุองค์ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไม่ครบ ทำให้ต้องมีการปิดประชุมอย่างกะทันหันหลายครั้ง หรือ สภาล่มซ้ำซาก หากนับรวมระยะเวลา 2 ปีของรัฐบาลนี้ มีเหตุการณ์สภาล่มมาแล้ว 12 ครั้ง และตั้งแต่การเปิดสมัยประชุมสภานี้ 2 เดือน สภาล่มมาแล้วถึง 4 ครั้ง ซึ่งมักจะเป็นในการพิจารณาวาระสำคัญเกี่ยวกับประชาชนทั้งสิ้น ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2564 และ 17 พ.ย. 2564 สภาล่มในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองพยานในคดีอาญา และ 15 ธ.ค. 2564 สภาล่มในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และล่าสุด 17 ธ.ค. 2564 สภาล่มในการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ โดยเฉพาะในวันที่ 15 ธันวาคม 2564 สภาล่มในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฝ่ายรัฐบาลไปไหน หรือรัฐบาลมองว่าคำสั่งดังกล่าวยังมีความจำเป็นจะต้องใช้ต่อ เพื่อควบคุมการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนใช่หรือไม่ โดยนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นมา
ธีรรัตน์ กล่าวว่า การที่องค์ประชุมไม่ครบแล้วทำให้สภาล่ม เป็นปัญหาอย่างมีนัยสำคัญของสภา เพราะแสดงให้เห็นถึงความไร้เสถียรภาพของรัฐบาล ถ้า ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลไม่สามารถทำหน้าที่รักษาองค์ประชุมได้ ก็ไม่ควรอยู่เป็นรัฐบาลซึ่งควรจะรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอีก
“อยากเตือนให้รัฐบาลทราบว่า การเป็นรัฐบาล ไม่ใช่แค่การรวบรวม ส.ส. เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วได้นายกรัฐมนตรี เป็นพล.อ. ประยุทธ์ เท่านั้น แต่ต้องทำหน้าที่ที่คำนึงถึงประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญด้วย ระวังทำแบบนี้บ่อยๆ ประชาชนจะไม่ให้โอกาสท่านอีกในการเลือกตั้งครั้งหน้า” นางสาวธีรรัตน์ กล่าว