สำนักข่าวรอยเตอร์และบีบีซี รายงานอ้างอิงสถานีโทรทัศน์อียิปต์ ระบุว่า โมฮัมเหม็ด มอร์ซี วัย 67 ปี อดีตประธานาธิบดีอียิปต์ เป็นลมหมดสติขณะขึ้นศาลในกรุงไคโรของอียิปต์ วันนี้ (17 มิ.ย.) และเสียชีวิตในเวลาต่อมาไม่นาน แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต
ทั้งนี้ มอร์ซีเป็นผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบหลายสิบปี หลังจากที่ประชาชนในอีิยิปต์ลุกฮือขับไล่อดีตผู้นำรัฐบาลเผด็จการได้สำเร็จเมื่อปี 2555 แต่เขาถูกผู้ชุมนุมต่อต้านหลังจากอยู่ในตำแหน่งได้ไม่ถึง 1 ปี เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลของมอร์ซีใกล้ชิดกับกลุ่มผู้มีแนวคิดเคร่งศาสนา 'ภราดรภาพมุสลิม' เป็นเหตุให้คณะรัฐประหารก่อเหตุยึดอำนาจในเดือน ก.ค. 2556
พลเอกอับเดล ฟัตตาห์ เอล-ซิซี ผู้นำคณะรัฐประหาร กล่าวหาอดีต ปธน.มอร์ซีเป็นสายลับให้กับประเทศกาตาร์ สนับสนุนกองกำลังติดอาวุธฮามาสในปาเลสไตน์ รวมถึงปลอมแปลงเอกสารสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี ทำให้มอร์ซีถูกคุมตัวในเรือนจำ และถูกเบิกตัวมาขึ้นศาลในคดีต่างๆ หลายครั้ง โดยการเบิกตัวล่าสุดคือวันที่ 17 มิ.ย.2562 ซึ่งเขาหมดสติในศาล และเสียชีวิตในที่สุด
ก่อนหน้านี้ มอร์ซีถูกตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับให้แก่ประเทศกาตาร์ ซึ่งกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ นำโดยซาอุดีอาระเบีย ประกาศคว่ำบาตรไปเมื่อปี 2560 ทั้งยังถูกลงโทษจำคุกอีก 20 ปี จากข้อหาออกคำสั่งปราบปรามผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลของตนเอง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และยังมีอีกหลายคดีอยู่ระหว่างรอการพิจารณา
อย่างไรก็ตาม องค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนหลายแห่ง ประณามการรัฐประหารและยึดอำนาจมอร์ซี รวมถึงออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลทหารที่ใช้กำลังปราบปรามกลุ่มภราดรภาพมุสลิมและผู้สนับสนุนมอร์ซีที่ออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลทหาร ทั้งยังประณามการจับกุมและลงโทษประหารชีวิตผู้ต่อต้านรัฐบาลทหารอีกเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ก่อนปี 2554 อียิปต์ถูกปกครองโดยอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัก ผู้นำเผด็จการที่อยู่ในตำแหน่งมาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี จนกระทั่งเกิดกระแส 'อาหรับสปริงส์' ที่ประชาชนในกลุ่มประเทศอาหรับรวมตัวกันขับไล่ผู้นำเผด็จการ ทำให้มูบารักพ้นจากตำแหน่งไป และพรรคเอฟเจพีซึ่งเป็นปีกการเมืองของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งจนจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ และโมฮัมเหม็ด มอร์ซี เป็นประธานาธิบดีพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งคนแรกในรอบ 3 ทศวรรษของอียิปต์
การที่รัฐบาลของ ปธน.มอร์ซี ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากกลุ่มชาวมุสลิมที่เคร่งศาสนา ทำให้เกิดความขัดแย้งกับพรรคการเมืองอื่นๆ และกลุ่มนายทหารระดับสูงของกองทัพ และหลังจากมีการชุมนุมประท้วงหลายครั้งในปี 2556 พลเอกอับเดล ฟัตตาห์ เอล-ซิซี ก็นำกลุ่มทหารก่อรัฐประหารในเดือน ก.ค. 2556
สมาชิกกลุ่มภราดรภาพมุสลิม รวมถึงผู้สนับสนุนอดีต ปธน.มอร์ซี ที่ไม่พอใจการรัฐประหารได้จัดชุมนุมประท้วงหลายครั้ง จนนำไปสู่การปะทะกับกลุ่มเจ้าหน้าที่และเกิดเหตุจลาจลใหญ่ ซึ่งรัฐบาลทหารตัดสินใจใช้กำลังสลายการชุมนุม พร้อมประกาศว่ากลุ่มภราดรภาพมุสลิมเป็นกลุ่มก่อการร้าย
เมื่อเดือน ก.ค.2561 ศาลอาญาสูงสุดของอียิปต์ได้พิพากษาลงโทษประหารชีวิตผู้มีส่วนร่วมในการชุมนุมต่อต้านรัฐประหารที่จัตุรัสราบาในกรุงไคโรของอียิปต์เมื่อปี 2556 รวมทั้งหมด 75 ราย โดยระบุว่าผู้ชุมนุมทำผิดข้อหาก่อความไม่สงบ ทำลายทรัพย์สินรัฐบาล ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คำตัดสินดังกล่าวถูกต่อต้านอย่างหนักจากองค์กรสิทธิมนุษยชนและสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: