ไม่พบผลการค้นหา
รัฐบาลเวียดนามออกคำสั่งจัดระเบียบชุมชนริมทางรถไฟในกรุงฮานอย พร้อมสั่งร้านค้าให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่กีดขวางเส้นทาง และห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปใกล้รางรถไฟ ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมมาก่อน จึงมีผู้มองว่าข้อห้ามเหล่านี้อาจจะทำให้เวียดนาม 'ขาดเสน่ห์' ไปในที่สุด

เส้นทางรถไฟในย่านเก่าแก่ของกรุงฮานอย โดยเฉพาะรางรถไฟที่เชื่อมต่อระหว่างถนนเลหยวนและถนนขามเตง ซึ่งตัดผ่านใจกลางชุมชนและร้านค้าต่างๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเวียดนามมานานหลายปี เพราะเป็นจุดที่คนจำนวนมากนิยมมาถ่ายภาพไปเผยแพร่ลงในสื่อโซเชียลของตัวเอง และเป็นสถานที่ยอดนิยมอันดับต้นๆ ในฮานอยที่มีคนถ่ายรูปขึ้นอินสตาแกรมมากที่สุดในแต่ละปี โดยใช้แฮชแท็ก #HanoiTrainStreet

จนกระทั่งรัฐบาลเวียดนามออกคำสั่ง 'จัดระเบียบ' ร้านค้าและคาเฟ่ที่อยู่ในย่านดังกล่าวเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการร้านที่ตั้งอยู่ใกล้กับทางรถไฟมากเกินไป โดยระบุเหตุผลเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะนักท่องเที่ยวจำนวนมากมักจะไปยืนออกันหน้าร้านค้าเพื่อถ่ายรูปกับรางรถไฟย้อนยุค รวมถึงถ่ายรูปขบวนรถไฟที่กำลังแล่นผ่านชุมชน โดยมีระยะห่างจากขบวนรถไฟเพียงไม่กี่เมตร

หลังจากนั้น ตำรวจเวียดนามก็ตอบสนองนโยบายของภาครัฐ นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปเดินตรวจตราและตั้งแนวรั้วชั่วคราว เพื่อกั้นไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปใกล้รางรถไฟในย่านเก่าแก่ของกรุงฮานอยที่เป็นจุดเช็กอินยอดนิยมดังกล่าว ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งก็เข้าใจว่านโยบายจัดระเบียบนี้มีขึ้นเพื่อความปลอดภัยของทุกคน แต่นักท่องเที่ยวบางส่วนก็มองว่าเส้นทางรถไฟดังกล่าวเป็นเสน่ห์ที่ไม่มีในประเทศอื่นๆ การสั่งปิดเส้นทางแห่งนี้ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อแรงจูงใจของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเวียดนามได้

Reuters-ชุมชนริมทางรถไฟในกรุงฮานอยในเวียดนาม.JPG

อย่างไรก็ตาม สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนเวียดนามในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนกว่า 12.87 ล้านคนแล้ว ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 11 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ทำให้รัฐบาลเวียดนามมีนโยบายจัดระเบียบและควบคุมกิจการที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ซึ่งรวมถึงร้านค้า ร้านเครื่องดื่ม และร้านอาหารที่กระจายตัวอยู่ในชุมชนริมทางรถไฟเก่าแก่ในกรุงฮานอยแห่งนี้ด้วย

รัฐบาลเวียดนามยืนยันชัดเจนว่าต้องจัดระเบียบพื้นที่ดังกล่าว และมีคำสั่งให้ร้านค้าต่างๆ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำพื้นที่ริมทางรถไฟมากเกินกว่าที่กฎหมายอนุญาตออกไปโดยเร็วที่สุด ถ้าฝ่าฝืนก็จะต้องเจอกับบทลงโทษ พร้อมทั้งชี้แจงด้วยว่า ชุมชนริมทางรถไฟดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการเดินรถไฟมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นที่ขบวนรถไฟต้องชะลอความเร็วลงกว่าครึ่งเพื่อแล่นผ่านชุมชนแห่งนี้

อีกกลุ่มหนึ่งที่ต่อต้านคำสั่งจัดระเบียบร้านค้าก็คือบรรดาผู้ประกอบการต่างๆ ในชุมชนนั่นเอง โดยหลายคนระบุว่า นโยบายนี้จะส่งผลกระทบต่อคนทำมาหากินในบริเวณดังกล่าวอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนแห่งนี้ได้มาก เพราะในยุคที่กระแสท่องเที่ยวยังไม่บูม พื้นที่แห่งนี้เป็นชุมชนแออัดที่มีปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม แต่เมื่อย่านนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ ก็ทำให้คนในชุมชนเริ่มมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้มากขึ้น และที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยมีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวมาก่อน

ที่มา: Atlas Obscura/ The Guardian/ Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: