บรรยากาศการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังคงมีตัวแทนจาก 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าร่วมประชุมอย่างครบถ้วน โดย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าฝ่ายค้านยังคงทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพทั้ง 6 พรรค ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มีเป้าหมายคือการตรวจสอบ เมื่อถูกจำกัดการอภิปรายในสภา พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงมีแนวคิดจะจัดกิจกรรมเปิดอภิปรายนอกสภา แบ่งเป็น 2 ส่วน คือการสรุปคำถามในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ข้อใดที่รัฐมนตรีตอบไม่ได้ ตอบไม่ตรง จะสรุปข้อมูลลงในแฟนเพจเฟซบุ๊คฝ่ายค้านเพื่อประชาชน และจะจัดการอภิปรายนอกสภา 

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ยืนยันว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 6 พรรค ยังร่วมกันทำงานอย่างเข้มแข็ง และจะทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนให้มากที่สุด พร้อมยืนยันไม่มีการฮั้วกันระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล เพื่อปิดโอกาสอภิปรายของ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ ส่วนการอภิปรายนอกสภาจะเป็นการตรวจสอบนโยบายที่รัฐบาลแถลงแล้วไม่ทำ และการทำหน้าที่บกพร่อง อาจไม่ถึงขั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะ ส.ส.ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองนอกสภา เปิดเวทีให้นักวิชาการ รวมถึงบุคลากรทางการเมืองมาร่วมด้วย คาดว่าจะจัดได้ภายในเดือนนี้

เช่นเดียวกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ยืนยันว่ายังเชื่อมั่นในการทำงานของฝ่ายค้าน ส่วนปัญหาที่ทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ประสบความสำเร็จ จะนำไปหารือกัน เพื่องานในอนาคต ทั้งนี้เป้าหมายของฝ่ายค้านคืออยากเห็นประเทศได้รับการแก้ปัญหา ส่วนประสบการณ์การเมืองเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้เพื่อจะสู้กับอำนาจรัฐ เพื่อให้การตรวจสอบของฝ่ายค้านไม่มีปัญหา พร้อมยืนยันว่าฝ่ายค้านยังจับมือกันอย่างแข็งแรง การอภิปรายครั้งนี้ยังไม่จบในความเห็นของฝ่ายค้าน เพราะไม่มีข้อตกลงใดอยู่เหนือกฎหมายรัฐธรรมนูญ และการตรวจสอบของฝ่ายค้านไม่ได้อยู่แค่ในสภาจะทำทั้งในและนอกสภา ส่วนกรณีการอภิปรายเกินเวลาของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรมยืนยันว่า ข้อตกลงเดิมกำหนดว่าการอภิปรายจะจบได้ไม่เกินเวลา 24 .00 น.วันที่ 27 กุมภาพันธ์ แต่ฝ่ายรัฐบาลขอจบในเวลา 19.00 น. เรื่องนี้มองว่ารัฐบาลใจแคบ ไม่ยึดกรอบรัฐธรรมนูญในการอภิปราย

นายชัยธวัช ตุลาธน ยืนยันว่า ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ และอดีตรองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยังคงเดินหน้าทำงานในสภา ขณะที่อีกส่วนจะทำในนามคณะอนาคตใหม่ โดยหลังจากนี้จะเดินหน้าทำงานต่อกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เชื่อว่าแต่ละพรรคมีแนวทางต่างกันแต่เป้าหมายหลักคือการผลักดันประชาธิปไตย โดยเฉพาะในสถานการณ์การเมืองที่ร้อนแรงในปัจจุบัน ทั้งนี้นายชัยธวัช ยังได้กล่าวถึงเรื่องการตั้งพรรคใหม่ ว่าให้รอดูเร็วๆนี้