นายเมตพิมล สิมะพิเชฐ นักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เดินทางกลับจากเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา เล่าว่า การท่องเที่ยวครั้งนี้วางแผนไว้ 3 เดือนแล้ว ก่อนที่จะมีเรื่องโรคระบาด ก่อนเดินทางมารับทราบข่าวสารโดยตลอด แต่ไม่ได้รู้สึกกลัว เพราะเห็นว่าบรรยากาศที่ประเทศญี่ปุ่นเหมือนประเทศไทย เมื่อมาเที่ยวจริงแล้ว คนที่ญี่ปุ่นไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่ แต่เมื่ออ่านข้อมูลเยอะ ก็ไปหาซื้อหน้ากากอนามัยมาใส่บ้างและในระหว่างการท่องเที่ยวไม่ได้มีใครพูดถึงโรคนี้ แต่รู้สึกว่านักท่องเที่ยวระวังตัวกันมากหลายคนใส่หน้ากากอนามัยเดินบนถนน 

อย่างไรก็ตาม ระหว่างท่องเที่ยวมีเพื่อนไลน์มาหา ว่าถ้ากลับไปอาจจะถูกกักตัวนะ ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้ว ว่าถ้ามีไข้จะโดนกักตัวแน่นอน แต่ไม่กลัวเพราะประเมินว่าตัวเองแข็งแรงดี แต่ตั้งใจว่ากลับไปแล้วจะอยู่ห่างจากพ่อแม่ เพราะเราไม่รู้ว่าเชื้อโรคจะติดเราไปหรือไม่  กังวลว่าเราอาจจะมีพาหะ และจะเลี่ยงไปในที่มีคนจำนวนมาก 

"หลังจากนี้ถ้าคนไทยมาเที่ยวควรมาหรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่าสถานการณ์ ณ วันนี้ยังไม่น่ากลัวมาก เพราะว่าที่ไทยก็แพร่เชื้อเหมือนกัน ถ้าเราคิดว่ามาญี่ปุ่นจะติด เราอยู่เมืองไทยก็ติดเหมือนกัน แต่เราต้องระมัดระวังตัวให้มาก ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำให้ได้มากที่สุด แต่หลังจากนี้ไม่รู้ว่าสถานการณ์การระบาดจะเป็นอย่างไร ต้องฟังทางการแจ้งเตือนจะดีที่สุด" นายเมตพิมล กล่าว  

เมตพิมล สิมะพิเชฐ นักท่องเที่ยว

ขณะที่ น.ส.วีรินทร์ ภูมรา นักท่องเที่ยวชาวไทยอีกคน บอกว่า เดินทางจากประเทศไทยมาที่เมืองฟูกูโอกะ ถึงเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2563 จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าไว้หลายเดือนแล้ว ตามโปรโมชั่นของสายการบินแห่งหนึ่ง ซึ่งการท่องเที่ยวครั้งนี้วางแผนนานมาก จะทิ้งตั๋วก็เสียดาย เพราะในหนึ่งปีจะเก็บเงินมาเที่ยวต่างประเทศหนึ่งครั้ง ช่วงที่เริ่มมีข่าวเกิดโควิด-19 ติดตามมาตลอด และเห็นว่าเมืองฟูกูโอกะที่มาเที่ยวยังไม่พบผู้ป่วย จึงตัดสินใจเดินทางมา และพยายามอ่านข้อมูลประกอบว่าควรป้องกันความเสี่ยงติดต่อโรคอย่างไร เตรียมหน้ากากอนามัย พร้อมเจลล้างมือ มาจากไทยด้วย เมื่อมาถึงแล้วพบว่าที่นี่ยังไม่ได้ตื่นตัวกับโรคเท่าไหร่นัก ผ่านการตรวจเข้าเมืองมาไม่มีวัดความร้อน ได้มีโอกาสแวะร้านขายของพบว่ามีหน้ากากอนามัยวางขายอยู่ แต่จำกัดการซื้อ แต่ต่อมาอีกสองวันจะไปซื้อหน้ากากที่ร้านเดิมปรากฎว่าไม่มีวางขายแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับข่าวที่มีรายงานว่าเมืองฟุกุโอกะพบผู้ป่วย 2 ราย 

น.ส.วีรินทร์ เล่าว่า บรรยากาศการท่องเที่ยว ผู้คนมีทั้งสวมหน้ากากและไม่สวมหน้ากากแต่ส่วนตัวแล้วสวมไปทุกทีจะถอดต่อเมื่อจะถ่ายรูปและรับประทานอาหาร และทุกครั้งเมื่อเห็นห้องน้ำจะพยายามเดินเข้าไปล้างมือตลอด ยอมรับว่ามีความกังวลอยู่บ้างกับข่าวสารที่ติดตามตลอดที่เที่ยว เพราะกลับไปประเทศไทยอาจถูกสอบประวัติได้ หากมีอาการไข้ ตัวร้อน อย่างไรก็ตามเมื่อกลับถึงบ้านแล้ว จะไม่ไปในแหล่งชุมชน จะเฝ้าดูอาการตัวเอง 14 วัน 

วีรินทร์ ภูมรา นักท่องเที่ยว

บรรยากาศนักท่องเที่ยวที่สนามบินฟูกูโอกะ กำลังรอเดินทางกลับ