สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ประมุขสูงสุดของคริสตจักรคาทอลิกพระองค์ก่อน มีลายพระหัตถเลขา ที่มีเนื้อหาว่า ความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ส่งผลให้ศีลธรรมล่มสลาย โดยการปฏิวัติทางเพศในยุค 1960-1980 ได้นำไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศเด็กและพฤติกรรมรักเพศเดียวกันในคริสตจักรคาทอลิก
โป๊ปเบเนดิกต์ทรงระบุว่า ยุค 1960 เป็นช่วงเวลาที่มาตรฐานสังคมสมัยก่อนเกี่ยวกับเรื่องเพศล่มสลายอย่างสิ้นเชิง ภาพยนตร์เกี่ยวกับเพศ ภาพโป๊ และแฟชั่นเสื้อผ้าในขณะนั้น นำไปสู่การล่มสลายทางจิตใจและความรุนแรง การล่วงละเมิดทางเพศเด็กกลายเป็นเรื่องที่สามารถทำได้และเหมาะสม ในเวลาแห่งการปฏิวัติทางเพศ คริสตจักรอ่อนแอ ไร้ทางต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงของสังคม และทางออกเพียงทางเดียวของปัญหานี้ก็คือการเชื่อฟังคำสอนและรักพระเยซู
โป๊ปมีพระราชวินิจฉัยว่า ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมในยุค 1960 ยังทำให้บิชอบต่างๆ พยายามแสวงหาการตีความคาทอลิกแบบใหม่ที่ทันสมัยขึ้น และการปฏิวัติทางเพศก็นำไปสู่พฤติกรรมรักเพศเดียวกันในคริสตจักร พระองค์ยกตัวอย่างว่ามีบิชอปคนหนึ่งเคยนำหนังโป๊มาเปิดให้นักเรียนศาสนาดู เพื่อ "ทำให้มีภูมิต้านทานกับสิ่งที่ขัดกับความเชื่อทางศาสนา"
พระหัตถเลขาฉบับนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่ามีแนวคิดที่เป็นปัญหา โดยโจชัว เอลวี ผู้เชี่ยวชาญวาติกันกล่าวว่า โป๊ปเบเนดิกต์ไม่ได้กล่าวถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่คริสติจักรคาทอลิกช่วยกันปกปิดการล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงบทบาทหน้าที่ของโป๊ปเบเนดิกต์ตลอด 24 ปีในการดำรงตำแหน่งประมุขสูงสุดขององค์กรที่มีอิทธิพลมากที่สุด
การกล่าวหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในคริสตจักรคาทอลิกมีมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษก่อนยุค 1960 ที่โป๊ปเบเนดิกต์อ้างว่าเป็นยุคที่ทำให้เกิดวิกฤตการล่วงละเมิดทางเพศ และโป๊ปเบเนดิกต์ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่สามารถปกป้องเด็กและพยายามกีดกันการสืบสวนสอบสวนในระหว่างที่พระองค์จะประกาศลาออกจากการเป็นพระสันตะปาปาในปี 2013 ซึ่งถือเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกในรอบเกือบ 600 ปีที่ลาออก
ที่มา : BBC