ไม่พบผลการค้นหา
21 ก.พ. 63 คือวันอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ในข้อหากู้เงินจาก 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' จำนวน 191.2 ล้านบาท ซึ่งถูกตั้งข้อกล่าวหาเป็นเงินบริจาคไม่ชอบด้วยกฎหมาย 'วอยซ์ออนไลน์' สัมภาษณ์พิเศษ 'ปิยบุตร แสงกนกกุล' ถึงแผนเผชิญเหตุในกรณีเกิดผลในทางร้ายกับพรรคอนาคตใหม่และ ส.ส.ทั้ง 76 เสียง

“ผมยังไม่รู้เลยว่าจะถูกยุบพรรคไหม”

เป็นคำตอบหลัง ‘ปิยบุตร แสงกนกกุล’ เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ในวัย 40 ปี ตอบคำถามกับ ‘วอยซ์ออนไลน์’ ก่อนเริ่มต้นสัมภาษณ์พิเศษถึงแผนเผชิญหน้าหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่กรณีกู้ยืมเงินจำนวน 191.2 ล้านบาทจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

คดียุบพรรคอนาคตใหม่เป็นคดีดาบสอง หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 72 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบ ด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เขาเริ่มต้นตอบประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ก่อนจะตอบถึงอนาคตทางการเมืองของเขาหลังเสร็จสิ้นคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 21 ก.พ. 2563 โดยย้ำว่า ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 1 นายกรัฐมนตรี และ 5 รัฐมนตรีในวันที่ 24-26 ก.พ.นี้ จะเป็นครั้งแรกของ 76 ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ที่จะอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร

และยังเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี หลังการรัฐประหารเมื่อปี 2557 และหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2556

“เรามีหัวหน้าทีมในการเตรียมข้อมูลในการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ เป็นติวเตอร์ด้วยในเวลาเดียวกันก็คือ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ทุกวันนี้ก็ยังซ้อมอย่างเข้มข้น ในส่วนของอภิปรายรัฐมนตรีทั้งหมด 6 ท่าน ทางพรรคอนาคตใหม่จะอภิปรายตัวนายกฯ และรัฐมนตรี รวม 5 ท่าน มีท่านหนึ่งที่เราไม่มีข้อมูลเพียงพอ และเราไม่มีความสามารถที่จะขึ้นไปอภิปรายได้ก็คือ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ”

ฉะนั้น ตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะเป็นชื่อสำคัญที่ฝ่ายค้านและพรรคอนาคตใหม่จะพุ่งเป้าชำแหละกลางสภาฯ มากที่สุด!

ปิยบุตร ธนาธร 2.jpgพรรคอนาคตใหม่
  • พรรคอนาคตใหม่และฝ่ายค้านยืนยันจะพุ่งเป้าย้อนหลังไปถึงเหตุการณ์ในอดีตของตัวนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหารใช่หรือไม่

ส.ส.ซีกรัฐบาลพยายามตั้งข้อสังเกตว่าการอภิปรายย้อนหลังไปไกลมากนัก เต็มที่ก็ให้ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่รู้ว่า 20 เปอร์เซ็นต์ คำนวณยังไง สาเหตุที่วันที่จะต้องคาบเกี่ยวไปถึงเรื่องในอดีต เพราะว่ารัฐบาลชุดนี้กับรัฐบาลกับรัฐบาลชุดที่แล้วมีความสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออก 1.นายกรัฐมนตรี 2.รัฐมนตรีหลายคนยังรับตำแหน่งเดิม และยังปฎิบัติหน้าที่อย่างบริหารประเทศในขอบเขตอำนาจหน้าที่ในเรื่องเดิมอยู่ 3.เกี่ยวเนื่องกับคุณสมบัติและความเชื่อมั่นของประชาชน

ยกตัวอย่าง ถ้าคุณเป็นรัฐบาลที่สืบเนื่องจากแล้วชุดที่แล้วเป็นชุดรัฐประหารชุดนี้เป็นชุดที่ว่ากันว่ามาจากการเลือกตั้ง ปฏิเสธไม่ได้ว่าพี่น้องประชาชนก็จะต้องมีความคาดหวัง ฝ่ายค้านจะต้องตั้งคำถามว่าคุณบริหารมาแล้ว 5 ปี มาต่อปีที่ 6 สุดท้ายแล้วมันมีอะไรดีขึ้นมากว่าเดิมไหม คุณแก้ไขปัญหาประเทศได้ไหม คุณบริหารราชการแผ่นดินสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนได้ไหม ดังนั้น ผมคิดว่าเป็นธรรมดาที่ต้องอภิปรายย้อนหลังไปในอดีตบ้าง เพราะหากไม่ย้อนหลังเลยคำถามคือ พล.อ.ประยุทธ์ก็เป็นคนๆ เดียวกัน รัฐมนตรีหลายคนก็นั่งกระทรวงเดียวกัน แล้วก็ยังทำหน้าที่เหมือนเดิม ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นกังวลใจไปอย่าปฏิเสธข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในทางประวัติศาสตร์

  • ถ้าเทียบกับประวัติศาสตร์ตั้งแต่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจมา พล.อ.ประยุทธ์จะถือเป็นนายกฯ คนแรกๆ ที่เคยยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญและกำลังจะมาเจอบททดสอบในสภาฯ

ผมคิดว่านายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหารและตัดสินใจสืบทอดอำนาจต่อก็จะต้องมารับรู้ถึงการมีฝ่ายค้านบ้าง หลังจากยึดอำนาจมาแล้วบริหารประเทศมาโดยไม่มีฝ่ายค้าน มันเป็นธรรมดาอยู่เองว่าความอดทนอดกลั้นของคนที่ยึดอำนาจวันที่คุณปกครองประเทศด้วยการยึดอำนาจโดยการชี้นิ้วสั่งคุณเข้าสภาโดยที่อยากได้อะไรสภาก็ยกมือโหวตให้หมด แต่พอมาครั้งนี้มันแปลกไปกว่าเดิม ผมก็ต้องเรียนว่าตัวท่านนายกรัฐมนตรีเองต้องตระหนักทุกวันว่า วันนี้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีตามระบบรัฐสภาแล้ว ท่านไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจากการยึดอำนาจแบบเดิมแล้ว ดังนั้น ตัวท่านเองจะต้องปรับตัวตรงนี้ด้วย ต้องเคารพการทำงานของรัฐสภาและเปิดโอกาสให้กับฝ่ายค้านในการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล

  • ฝ่ายค้านจะเปิดข้อมูลใหม่ๆ นอกจากการทำรัฐประหารในอดีตหรือไม่

พรรคอนาคตใหม่มีข้อมูลใหม่หลายเรื่องตอนนี้ขอยังไม่บอกว่าเป็นเพราะเรื่องอะไรและเป็นรัฐมนตรีท่านใดแต่ว่าข้อมูลที่เราเตรียมเอาไว้หลายเรื่องไม่เคยปรากฏในสื่อมวลชนมาก่อน

  • ฝ่ายค้านจะเตรียมรับมือกับ ส.ส.รัฐบาลที่พยายามสกัดและตอบโต้ถ้ามีข้อมูลเห็นว่าไม่เป็นตามข้อเท็จจริง

สิ่งที่เรามักจะทำกันมาโดยตลอดตามที่ภาษาสื่อมวลชนเรียกกันว่าองครักษ์พิทักษ์รัฐบาล การเปิดโอกาสเปิดให้ฝ่ายค้านได้ทำงานอย่างเต็มทีเป็นประโยชน์สูงสุดต่อชาติบ้านเมือง ตรงกันข้ามถ้าเกิดคุณประท้วงกันมากขึ้นภาพลักษณ์ของสภาฯที่ไม่ดีออกไปว่าประท้วงทำไมคนกำลังอภิปรายอยู่ เช่นเดียวกันถ้ารัฐมนตรีดีจริง เก่งจริง มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนประเทศจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่ถูกตรวจสอบรัฐมนตรีคนนั้นก็จะเอาตัวรอดได้อธิบายได้ชัดเจนอยู่แล้ว ถ้ามีความบริสุทธิ์ก็จะเป็นเกราะกำบังเกราะคุ้มกันที่ดีที่สุด องครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรีต่อให้มีกี่หมื่นกี่ร้อยคนก็สู้ความบริสุทธิ์ของตัวรัฐมนตรี ถ้ารัฐมนตรีคนนั้นบริสุทธิ์จริง มีฝีมือจริงอภิปรายยังไงก็ทำอะไรไม่ได้

ตรงกันข้ามถ้ารัฐมนตรีมีปัญหาจริงๆคุณจะมีองครักษ์พิทักษ์กี่คนก็ช่วยไม่ได้ ผมคิดว่าที่เราจะต้องมาสนใจ คือ ยอมรับการตรวจสอบยอมรับการทำงานของรัฐบาล นี่คือประชาธิปไตย นี่คือระบบรัฐสภา

  • ถ้านับจำนวนเสียงในสภา เสียงฝ่ายค้านยังไงก็ไม่สามารถล้มรัฐมนตรีที่โดนซักฟอกได้ เป้าหมายครั้งนี้พรรคอนาคตใหม่ และฝ่ายค้านหวังอะไรเป็นพิเศษหลังเสร็จศึกซักฟอก

แน่นอนที่สุดคือการยกมือกันในสภาฯ แล้วเสียงข้างน้อยก็จะแพ้เสียงข้างมากทุกครั้ง เพราะพรรคฝ่ายค้านมีน้อยกว่าเป็นเรื่องปกติ แต่สาธารณชนสื่อมวลชนสังคมที่นั่งฟังอยู่เขาก็จะตัดสินได้ ในทางประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาการอภิปรายไม่ไว้วางใจและล้มรัฐบาลได้หรือเปลี่ยนรัฐมนตรีได้มีน้อยมาก ส่วนใหญ่แล้วมันเกิดจากรัฐบาลมีปัญหากันเองพรรคร่วมมีปัญหากันเอง ยกมือให้คนนั้นไม่ยกมือให้อีกคน ทำให้เสียงน้อยผิดปกติและนำมาซึ่งการปรับ ครม. หรือโดนกระแสสังคมกดดันหลังจากฟังอภิปรายไม่ไว้วางใจโดนกดดันจนต้องเปลี่ยนรัฐมนตรี การยกมือในสภาเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น

แต่สำคัญที่สุดก็คือการอภิปรายที่มีเนื้อหามีหลักฐานมีข้อมูลแล้วทำให้ประชาชนเห็นได้ว่าไม่ควรจะให้ความไว้วางใจรัฐมนตรีคนนี้ต่อและกระบวนการทางการเมืองก็จะตามต่อเนื่องมาเอง

ปิยบุตร
  • ประเมินแล้วหวังผลอะไรในทางการเมืองมากที่สุด ยุบสภา ลาออก หรือการแสดงความรับผิดชอบของตัวรัฐมนตรี

ความรับผิดชอบในทางการเมืองมันเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องประเมินและตัดสินกันเอง ในท้ายที่สุดเขาจะต้องตัดสินใจว่าจะทำอะไร และอภิปรายกันในอดีตที่ผ่านมาการจะล้มรัฐบาลได้หรือไม่ได้มันขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของรัฐบาลเอง อยู่ที่ความยับยั้งชั่งใจการประเมินการตัดสินใจของรัฐบาลเอง แต่ผมคิดว่าครั้งนี้ที่สำคัญไปกว่าครั้งก่อนๆ 1.เราไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจกันมาถึง 7 ปีแล้วและเป็นครั้งแรก ดังนั้นพี่น้องประชาชนให้การจับตามองมาก

2.การประชุมสภาและการอภิปรายไม่ไว้วางใจยุคใหม่ที่มีคนเฝ้าติดตามดูในทุกแพลตฟอร์มมาก สังเกตประชุมสภาทีไร มีการติดแฮชแท็ก #ประชุมสภา ขึ้นอันดับต้นต้นในทวิตเตอร์ทุกครั้ง ทำให้มีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจติดตามได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อก่อนต้องไปนั่งรอดูเวลาว่ากี่โมงเดี๋ยวนี้ถ่ายทอดสดทุกแพลตฟอร์มแล้วยังมีการตัดเป็นคลิปต่างๆ ให้ประชาชนได้ดูย้อนหลังตลอดเวลา ดังนั้น ผมคิดว่าความน่าสนใจครั้งนี้อยู่ตรงนี้ คือคุณต้องรอมานานและคนจะดูเยอะมากผ่านทุกช่องทาง 2 สิ่งนี้ประกอบกัน ทำให้กรรมการอาจจะไม่อยู่ในสภา กรรมการที่จะบอกว่ารัฐมนตรีคนไหนไปต่อได้ไปต่อไม่ได้ไม่ใช่มือในสภาแต่คือประชาชนที่นั่งฟังอยู่

  • มีคนบอกว่ายังไม่ถึงเวลาที่เป็นเงื่อนไขสุกงอมพอที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เพราะมีข้อมูลหลายเรื่องที่จะสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาถึงคุณสมบัติของรัฐมนตรีสะท้อนให้เห็นถึงการใช้อำนาจโดยมิชอบสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการบริหารประเทศที่มีประสิทธิภาพดังนั้นต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ

  • ถ้าหลังวันที่ 21 ก.พ. 2563 หลังสิ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าเกิดแนวทางที่ไม่คาดฝันมีการยุบพรรคอนาคตใหม่จะวางแผนเผชิญหน้าในขณะนั้นอย่างไร

เรายืนยันว่าอ่านข้อกฎหมายข้อเท็จจริงระเบียบต่างๆ พรรคอนาคตใหม่ไม่มีความผิดในฐานะเรื่องบริจาคเงินเกินไม่มีความผิดในฐานะรับเงินผิดกฎหมายไม่มีความผิดในฐานะการทำนิติกรรมอำพราง เรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญต้องยกคำร้องในความเห็นของเรา จริงๆ กกต.ควรจะยุติเรื่องนี้ตั้งแต่แรก แต่อย่างที่บอกคือปากกาไม่ได้อยู่ที่ผม ถ้าปากกาอยู่ที่ผมให้ผมเป็นคนเขียนผมก็จะเขียนยกคำร้องแน่นอนแต่ปากกาอยู่ที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 ท่านอำนาจในการตัดสินเป็นของศาลรัฐธรรมนูญ

ผมเรียนตรงนี้ว่าคำพิพากษากฎหมายต่างๆ เวลาเราจะสร้างการยอมรับนับถือขององค์กรวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทองค์กรตุลาการต่างๆ การยอมรับนับถือคำพิพากษาต่างๆ มันไม่ใช่เกิดขึ้น เพราะว่าเป็นคำพิพากษาเขียนเสร็จแล้วกฎหมายบอกให้มีผลบอกให้คุณต้องเคารพก็ต้องเคารพ ไม่ใช่ แต่การยอมรับนับถือการเคารพมันเกิดจากเหตุผลที่อยู่ในคำวินิจฉัยด้วยดังนั้น ถ้าเหตุผลมันจะต้องทำให้ถึงขนาดที่ว่าแม้กระทั่งคนแพ้อย่างฟังแล้วเข้าใจได้แม้กระทั่งวิญญูชน ภาวะวิสัยอ่านดูแล้วฟังได้ ไม่ได้เพี้ยน ไม่ได้เกินอำนาจลักษณะแบบนี้ต่างหากถึงจะเป็นเกราะคุ้มกันอันดีให้กับตัวคำพิพากษาคำวินิจฉัยต่างๆ

ผมเรียนว่าความชอบธรรมของกฎหมายความชอบธรรมของพิพากษาต่างๆ มันเกิดขึ้นได้ต้องอยู่ด้วยแบบนี้ไม่ใช่อยู่ด้วยอำนาจบังคับ เพราะฉะนั้นเราดูข้อเท็จจริงข้อกฎหมายแล้วไม่น่าจะยุบ แต่ในท้ายที่สุดปากกาอยู่ที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่ในท้ายที่สุดถ้ามีการยุบพรรคเกิดขึ้นก็ไม่มีปัญหา

การยุบพรรคในประเทศนี้ 10 กว่าปีที่ผ่านมา คนที่เชียร์ให้ยุบเขาก็หวังจะได้อะไรบางอย่างจากการยุบ สิ่งที่เขาต้องการคือการดึง ส.ส. ไปร่วมทีม อยากจะตัดบทบาทแกนนำของพรรคการเมืองนั้นๆออกไป ซึ่งถ้าวัตถุประสงค์มีแบบนี้เราจะสกัดกั้นนิติสงคราม เรื่องยุบพรรคแบบนี้ได้ทำได้อย่างเดียวคือต้องทำให้วัตถุประสงค์ 2 เรื่องนี้ไม่สำเร็จ นั่นก็คือถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ คุณหวังว่าอนาคตใหม่จะหายไป แต่เดี๋ยวเราจะทำให้อนาคตใหม่โตกว่าเดิม คุณหวังว่าธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตรจะหายไปจากการเมืองไทย หายไปจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองไทย แต่คุณจะเห็นธนาธรและปิยบุตรโลดแล่นเดินสายไปทั่วประเทศไปรณรงค์ทางการเมืองกับพี่น้องประชาชน

สัมภาษณ์ อ. ปิยบุตร


"คุณยุบได้แต่โครงร่างคุณยุบหัวใจไม่ได้หรอก ในท้ายที่สุดก็คือยุบได้แต่ร่างกายแต่หัวใจของเขาจะอยู่และหัวใจนี้ก็จะไปสิงสถิตในร่างกายใหม่"
  • ถ้าผลออกมาในทางเลวร้าย อาจารย์ปิยบุตรจะไม่วางมือทางการเมือง

การเมืองเป็นเรื่องของทุกคนการเมืองเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของทุกคนเสรีภาพในการแสดงออกเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของทุกคนในช่วงเวลาหนึ่งผมได้รับเลือกการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผมใช้สถานะนี้แสดงบทบาทหน้าที่อย่างเต็มที่เต็มศักยภาพ แต่ถ้าวันหนึ่งผมถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้เป็น ผมก็ยังมีสิทธิพลเมืองที่ติดตัวมาตลอดคุณตัดสิทธิในการเมืองไม่ให้ผมลงเลือกตั้ง ไม่ให้ผมเป็น ส.ส. แต่ความเป็นพลเมืองไทยของผมอยู่ติดตัวผมตลอดเวลาเสรีภาพในการแสดงออกเป็นสิทธิที่ติดตัวมนุษย์มาแต่กำเนิด

เมื่อคนเกิดมาเป็นมนุษย์คุณมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นคุณมีเสรีภาพในการแสดงออกทันทีมันตัดไม่ได้ ศาลกี่ศาล คำพิพากษากี่ฉบับจะตัดก็ตัดไม่ได้ ดังนั้น ถ้าผมไม่ได้เป็นนักการเมือง ไม่ได้พูดในสภา ไม่ได้เป็น ส.ส. ผมเข้าไปแสดงออกในบทบาทอื่น ไปแสดงความคิดเห็นในพื้นที่ทางการเมืองอื่น เพราะฉะนั้นยืนยันว่าเดินหน้าทำงานต่อ เพราะว่าถ้าหากธนาธรหรือผมหยุดเมื่อไหร่นั่นก็คือเข้าทางของคนที่อยากให้พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ เราจะเดินหน้าทำงานรณรงค์การเมืองต่อเนื่องต่อที่สำคัญที่สุดผมคิดว่านี่คือพันธกิจทางประวัติศาสตร์ เรารับความคาดหวังของพี่น้องประชาชนเอาไว้จำนวนมาก ถ้าเราหยุดเมื่อไหร่ ผมเกรงว่าความคาดหวังนี้จะเปลี่ยนไปความสิ้นหวังแทนเราต้องหล่อเลี้ยงความหวังของประชาชนคนไทยจำนวนมากที่คิดว่าการเมืองไทยจะเปลี่ยนแปลงไปได้ไปในทางที่ดี ดังนั้น หยุดไม่ได้ครับ 

  • ส.ส.อนาคตใหม่ที่ยังเหลืออยู่กว่า 60 เสียง ซึ่งไม่โดนตัดสิทธิยังพร้อมที่จะรบในสภาฯผ่านเวทีซักฟอกอยู่หรือไม่

พร้อมจะเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรแน่นอน ถ้าพรรคถูกยุบจริงก็จะย้ายไปพรรคใหม่อย่างพร้อมเพรียงกัน เพราะนี่ไม่ได้ทำเพราะพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น ไม่ใช่เพราะอยากจะรักษาจำนวน ส.ส. ไว้เท่านั้น แต่สิ่งที่มันเป็นผลพลอยได้ที่สำคัญคือถ้าหากอนาคตใหม่ถูกยุบจริงแล้วเราไปอยู่ที่ใหม่โดยย้ายไปพร้อมเพรียงกันหมด แล้วเรามีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกอนาคตใหม่ยิ่งโตอีกธนาธรกับผมไปโลดแล่นในเวทีที่อื่นๆอีก ถ้าทำแบบนี้ได้เมื่อไหร่ ยุบพรรคต่อไปก็จะคิดเยอะขึ้น ยุบทำไมยุบไม่เห็นได้อะไร ยุบแล้วมีแต่เสียกับเสีย แต่ถ้าทำแบบนี้ได้อาวุธที่ชื่อว่ายุบพรรคก็จะกลายเป็นกระสุนด้าน แล้วพรรคอื่นๆจะได้ไม่ต้องมันนั่งกังวลว่าถูกยุบอีก

"ถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ คุณหวังว่าอนาคตใหม่จะหายไป แต่เดี๋ยวเราจะทำให้อนาคตใหม่โตกว่าเดิม"
  • ส.ส.กว่า 60 ชีวิตที่เหลืออยู่จำเป็นต้องลงนามสัตยาบันเพื่อไม่ให้มีการทรยศหักหลังหรือไม่

ไม่มีความจำเป็น ผมมั่นใจว่าเพื่อน ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ทุกคนอยู่กันด้วยความคิดอุดมการณ์ พร้อมที่จะเดินหน้าต่อสู้ด้วยกันเพื่อสร้างอนาคตใหม่ที่ดีให้กับประเทศไทย

อนาคตใหม่-ขับไล่4งูเห่า
  •  พรรคสำรองของพรรคอนาคตใหม่จะยังมีดีเอ็นเอแบบอนาคตใหม่แค่ไหน

การยุบพรรคที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คุณยุบได้แต่โครงร่างคุณยุบหัวใจไม่ได้หรอก ในท้ายที่สุดก็คือยุบได้แต่ร่างกาย แต่หัวใจของเขาจะอยู่และหัวใจนี้ก็จะไปสิงสถิตในร่างกายใหม่เท่านั้นเอง ยังเดินหน้าต่อและผมก็จะทำให้โตกว่าเดิมด้วย

  • ไม่ใช่คำขู่ใช่หรือไม่

ไม่ใช่คำเตือนคำขู่แต่ตั้งใจเพราะถ้าเรายังอยู่ในรูปแบบพรรคอนาคตใหม่เราก็จะทำให้โตกว่าเดิม ถ้าคุณยุบร่างกายแบบอนาคตใหม่ไปหัวใจดวงนี้ไปอยู่ร่างใหม่ก็จะโตกว่าเดิมอยู่ดี

  • การยุบพรรคไม่เป็นผลดี คือการใช้อาวุธข้อกฎหมาย หรือทางนิติสงครามทางการเมืองมากำจัดศัตรูทางการเมือง

10 กว่าปีแล้วใช้แบบนี้มาหลายครั้งหลายหน แต่มันก็ไม่เกิดประโยชน์ตรงกันข้ามผมคิดว่ามันกำลังทยอยกลับเข้าสู่ประชาธิปไตย ต้องยอมรับตรงนี้ก่อนแล้วเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อย่ากำจัดอยากขับไล่คนที่มีความคิดที่แตกต่างออกไปจากพื้นที่เหล่านี้ถ้าหากทุกความคิดได้เข้ามาอยู่ในประชาธิปไตยได้เข้ามาอยู่ในระบบรัฐสภาไม่มีใครถูกขจัดออกไปอย่างนี้แหละครับมันจะเดินหน้าต่อไปได้ แต่ถ้าเรามองว่าเป็นศัตรูของรัฐ แล้วเป็นศัตรูของผู้มีอำนาจแล้ว ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรต้องหาทางขจัดมันออกไปให้ได้ วิธีคิดแบบนี้ประเทศไทยทำมาแล้วหลายครั้งแล้วก็ไม่สำเร็จแล้วพอไม่สำเร็จก็กลับมาปรองดองเริ่มต้นกันใหม่ แล้วทำไปทำไมที่ผ่านมา

วิธีการที่ถูกต้องที่สุดคือสำหรับผู้มีอำนาจ ยิ่งมีเยาวชนคนหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ทางการเมืองให้ความสนใจการเมืองมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นประโยชน์ยิ่งดีต่อสังคมไทยแล้วเอาคนที่มีความคิดอยากเปลี่ยนแปลงคนที่มีความคิดก้าวหน้าแบบนี้ใช้เป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศไม่ใช่ขจัดออก ใช้เป็นพลังและมาเดินหน้าด้วยกัน

ต้องยอมรับว่า 2 ปีที่ผ่านมาเราสามารถกระตุ้นให้คนที่ไม่สนใจการเมืองหันมาสนใจการเมือง เราสามารถกระตุ้นให้เยาวชนคนหนุ่มสาวที่ใช้ชีวิตไปในเรื่องของบริโภคนิยมเป็นหลักหันมาสนใจเรื่องสังคมเรื่องบ้านเมือง แฮชแท็กทวิตเตอร์ ประชุมสภาขึ้นทุกสัปดาห์ มีการตามประชุมสภากันอย่างต่อเนื่องตลอดเราสามารถทำให้ภูมิทัศน์ทางการเมืองมันเปลี่ยนแปลงไปมากขึ้น 

ผมดีใจมากที่คุณกรณ์ จาติกวณิช อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ออกไปตั้งพรรคและจะดำเนินการพรรคแบบใหม่ ถ้าจะมีพรรคอื่นอีกก็มีเลยครับแล้วดำเนินการตามพรรคแบบใหม่ พรรคดั้งเดิมก็จะปรับตัวให้ทันสมัยขึ้น พรรคใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นก็จะเป็นทางเลือกให้กับพี่น้องประชาชนแล้วแข่งกันด้วยกติกาแบบนี้ แต่ถ้าคุณไปขจัดใครออกไปจากเวทีมันไม่ใช่แค่ขจัดคนไม่กี่คนแต่มันเป็นความหวังของคนจำนวนมากที่ฝากไว้กับพรรคนั้น ดังนั้นการยุบพรรคมันไม่ใช่ยุบพรรคชื่อพรรคเท่านั้น เพราะยุบชื่อพรรคไปเขาก็ไปหาพรรคใหม่แต่มันไปเหยียบย่ำทุบเข้าหัวใจของประชาชนที่ฝากความหวังไว้กับพรรคนั้นๆ

ปิยบุตรปิยบุตร
  • ถ้าอาจารย์หมดสิทธิเข้าไปในสภาฯ ขึ้นมาบทบาทอาจารย์คือจะเป็นฝ่ายค้านนอกสภาเต็มตัว

ผมจะใช้วิชาความรู้ของผมในการพูดจาในการทำงานทางความคิดกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ถ้าไม่ให้ผมอยู่ในสภาผมยิ่งมีเวลาเยอะกว่าเดิม ผมอยู่ในสภาเราจะเจอระเบียบวิธีของสภาต่างๆ ที่ใช้เวลานานกว่าจะผลักดันอะไรเรื่องต่างๆ ได้สำเร็จ แต่ถ้าตัดสิทธิผมขึ้นมาจริงๆ ผมก็ไปพูดข้างนอกต่อไป พี่น้องประชาชนไม่ต้องมารอกดคลิปกดใน YouTube หรือกด เพจเฟซบุ๊ก ผมจะไปพูดให้ถึงหน้าบ้านท่านเลย

  • ถ้าพรรคถูกยุบ การอภิปรายไม่ไว้วางใจของอาจารย์กับคุณธนาธรก็อาจจะต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา

การรณรงค์ทางการเมืองมันมีได้หลากหลายเรื่องมันไม่จำเป็นต้องอภิปรายตรวจสอบรัฐบาล แต่มันมีงานในเชิงประเด็นที่พรรคอนาคตใหม่ผลักดันมาโดยตลอดแม้วันนี้เราไม่ได้เป็นบาทเราก็พยายามทำ เช่น ยกเลิกการเกณฑ์ทหารภาคบังคับ เรื่องการยึดติดราชการรวมศูนย์ทวงคืนอำนาจกลับไปส่วนท้องถิ่น เรื่องของทลายทุนผูกขาดเริ่มต้นจากกรณีอุตสาหกรรมสุราก่อน การถือครองที่ดินแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับชาวบ้าน ยังมีเรื่องของการสร้างรัฐสวัสดิการ เรื่องลดความเหลื่อมล้ำ เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่ทำงานระยะยาว สุดท้ายคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นเราก็จะรณรงค์เชิงประเด็นกันอย่างนี้ต่อเนื่องไปไม่ใช่เฉพาะเจาะจงตรวจสอบว่ารัฐบาล

  • ยังมั่นใจอยู่ในวันนี้ ว่าพรรคอนาคตใหม่จะไม่ถูกยุบพรรค

ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเหตุการณ์อะไรจะเกิด ผมมั่นใจว่ามีชื่ออนาคตใหม่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มั่นใจว่าพรรคอนาคตใหม่ ไม่มีความผิดตามที่ กกต.กล่าวหาและร้องยุบพรรคไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ

ที่สำคัญมากไปกว่านั้นวันที่ศาลนัดวินิจฉัยออกบัลลังก์ในทุกครั้งจะเป็นวันพุธ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เห็นคือวันศุกร์ที่ 21 ก.พ. วันที่ 24 ก.พ. จะเป็นวันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก 22-23 ก.พ. เสาร์อาทิตย์ วันที่ 21 ก.พ. คือวันศุกร์ ดังนั้น ต่อให้ปฎิเสธ อย่างไรก็ตาม คนก็ตั้งข้อสงสัย ตั้งคำถาม แต่ผมก็เชื่อมั่นว่าศาลรัฐธรรมนูญมีความเป็นกลางมีความเป็นอิสระ และจะให้ความยุติธรรมกับพรรคอนาคตใหม่

  • ทำวันนี้ให้เป็นวันสุดท้ายที่อาจารย์โพสต์ในเฟซบุ๊กเป็นการบอกลาส่งท้ายหรือไม่

 ผมไม่ได้บอกลา เขาเรียกว่าตั้งสติอยู่บนความไม่ประมาท ผมมั่นใจว่าพรรคไม่ถูกยุบ แต่อย่างที่ผมบอกว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมามีการยุบพรรคอยู่บ่อยครั้ง มันทำให้ไม่มีใครกล้าจะคาดหมายได้ว่ายุบหรือไม่ยุบ ทุกไม่มีใครกล้าคาดคิด ดังนั้น ผมเองในฐานะที่ได้รับผลกระทบผมก็ต้องตั้งสติอยู่บนความไม่ประมาท ก็คือว่าทุกๆวันอาจจะเป็นวันสุดท้ายของคุณ ถ้าคุณตั้งใจจะผลักดันอะไร คุณตั้งใจจะใช้สถานะบทบาทหน้าที่ของคุณในการดำเนินงานเรื่องอะไร คุณมีมโนธรรมสำนึกที่ตั้งใจจะทำเรื่องอะไร คุณสัญญากับประชาชนเอาไว้ว่าจะผลักดันเรื่องอะไร ทำทุกวันให้เหมือนเป็นวันสุดท้ายแล้วคุณจะทำได้อย่างเต็มที่

  • อาจารย์เป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล ถ้าให้เลือกระหว่างลิเวอร์พูลเป็นแชมป์กับอนาคตใหม่รอดยุบพรรคจะเลือกอะไร

ผมคิดว่าได้ทั้งคู่ แชมป์พรีเมียร์ลีกน่าจะแน่นอนแล้ว ไม่จำเป็นต้องเลือก

ปิยบุตร 02343_2602607223389552640_n.jpg


ข่าวที่เกี่ยวข้อง