พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีเพียงรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม ที่ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อลดความแออัด ขณะที่รัฐมนตรีอื่นนั้นจะประจำอยู่ที่กระทรวงของตนเอง
สำหรับวาระการประชุมที่น่าสนใจ ทางกระทรวงแรงงานเตรียมเสนอที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาปรับลดการจ่ายเงินสมทบเข้าประกันสังคมในส่วนของลูกจ้าง จากเดิมที่ลดลงจาก 5% เป็น 3% อยู่แล้ว มาเป็นเหลือ 0.5% แต่การส่งเงินสมทบในส่วนของนายจ้างยังเป็น 3% เหมือนเดิม ที่คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในเดือน ก.พ-มี.ค. 2564 เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกจ้างในระบบประกันสังคมที่มีอยู่ราว 12 ล้านคน
ขณะที่กระทรวงการคลัง จะมีการเสนอมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติม ในรูปแบบมาตรการด้านภาษีเพื่อช่วยลดภาระรายจ่ายให้กับประชาชน และผู้ประกอบการ ประกอบด้วย ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 63 กับกรมสรรพากรออกไปอีก 3 เดือน ซึ่งเดิมกำหนดสิ้นสุดยื่นวันสุดท้าย 31 มี.ค. 2564 ออกไปเป็นวันที่ 30 มิ.ย. 2564
นอกจากนี้ ยังมีการลดอัตราจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทุกประเภทรอบปี 2564 ลง 90% และให้จัดเก็บจริงเพียง 10% การขยายมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนซื้ออสังหาริมทรัพย์ สำหรับราคาบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และลดค่าใช้จ่ายของประชาชนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย อีกทั้งยังลดค่าจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดจากเดิม 1% ของมูลค่าที่จำนอง เหลือ 0.01%
พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวแสดงความห่วงใยอาการป่วยของวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และได้ติดตามอาการอย่างใกล้ชิดมาทุกระยะ พร้อมได้มอบผู้แทนส่งดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจผู้ว่าฯ และครอบครัว และด้วยความหวังเต็มเปี่ยมว่าผู้ว่าฯจะผ่านวิกฤติจากการป่วยครั้งนี้ไปได้ มีทีมแพทย์ที่เฝ้าดูแลอาการและรักษาอย่างสุดกำลัง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกคนร่วมส่งกำลังใจให้ผู้ว่าฯไปพร้อมกัน เชื่อว่าคุณงามความดีที่ท่านผู้ว่าฯได้ทำให้แก่ประชาชนและประเทศชาติมาตลอดการรับราชการ โดยเฉพาะช่วงการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่สมุทรสาคร ท่านก็เป็นบุคคลแรกที่เข้าไปดูแลและแก้ปัญหาด้วยตนเองอย่างกล้าหาญ
พร้อมกำชับให้ประชาชนดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดอีกด้วย นายกรัฐมนตรีขอประชาชนอย่าได้เชื่อข่าวจากแหล่งข่าวหรือข่าวที่ปล่อยออกมาโดยไม่มีที่มาและสร้างความสับสน ขอให้ติดตามจากการแถลงของคณะแพทยศาสตร์ศิริราช ที่เป็นเจ้าของไข้ และรักษาอยู่เท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :