เมื่อวันที่ 18 พ.ย. เว็บไซต์ดิอีคอนอมิสต์ (The Economist) เผยรายงานค่าครองชีพทั่วโลกประจำปี 2020 จากการสำรวจใน 133 เมืองทั่วโลก โดยประเด็นหลักของปีนี้คือ ผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีต่อราคาสินค้าและค่าครองชีพ
ตามรายงานระบุว่า ปีนี้ ฮ่องกง นครซูริก ของสวิตเซอร์แลนด์ และกรุงปารีส ของฝรั่งเศส ครองอันดับ 1 ร่วม เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงสุดในโลก จากการที่เงินฟรังซ์สวิสและเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ขณะที่ สิงคโปร์ และนครโอซากา ซึ่งเคยครองอันดับ 1 ร่วมกันในปีที่แล้ว หล่นลงมาอยู่ที่อันดับ 4 และอันดับ 5 ตามลำดับรั้งอันดับร่วมกับนครเทลอาวีฟ ของอิสราเอล
เหตุที่สิงคโปร์อันดับร่วงมาจากการที่แรงงานต่างชาติพากันย้ายออกเนื่องผลกระทบของโควิด-19 ประกอบกับจำนวนประชากรหดตัวเป็นครั้งแรกนับจากปี 2546 ส่งผลให้ความต้องการบริโภคลดลง ส่วนนครโอซากามีลักษณะคล้ายกัน จากดัชนีราคาสินค้าบริโภคคงที่และรัฐบาลญี่ปุ่นอุดหนุนค่าใช้จ่ายโดยตรงเพื่อลดผลกระทบของประชาชนจากโควิด
ขณะที่นครนิวยอร์ก กับนครเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์ ครองตำแหน่งร่วมกันในอันดับ 7 ส่วนอันดับ 9 นั้นตกเป็นของสองเมืองคือ นครลอสแองเจลิส และกรุงโคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก
กรุงเทพมหานคร ร่วงลง 20 อันดับจากปีที่แล้วจากปีที่แล้วอยู่ในอันดับที่ 26 ของเมืองค่าครองชีพแพงสุดในโลก รั้งที่ 46 ของโลกในปีนี้ ครองตำแหน่งร่วมกับกรุงมอสโก ของรัสเซีย ส่วน 10 เมืองที่ค่าครองชีพถูกสุดในโลก คือ ดามัสกัส, ทาชเคนต์, ลูซากา, การากัส และ อัลมาตี
การจัดอันดับดังกล่าวมาจากการสำรวจ 133 เมืองทั่วโลก ซึ่งมีการเปรียบเทียบค่าครองชีพจากราคาสินค้าและบริการในชีวิตประจำกันรวม 138 รายการ โดยใช้ราคาสินค้าในนครนิวยอร์กเป็นเกณฑ์เปรียบเทียบ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอันดับโดยรวมนี้เป็นผลมาจากการระบาดที่กระทบให้ราคาสินค้าและบริการมีราคาสูงขึ้น