ไม่พบผลการค้นหา
รองนายกรัฐมนตรี เผย รัฐบาลไม่กังวล ฝ่ายค้านเตรียมถล่มแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภาเชื่อมั่นในองค์ 4 โดยเฉพาะประธานรัฐสภาที่จะควบคุมการประชุมได้เป็นอย่างดี

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายแบ่งกลุ่มรัฐมนตรี 4 กลุ่ม คือ 1 กลุ่ม 3 ป. 2 กลุ่มรัฐมนตรีที่คดีค้างเก่า 3 กลุ่มรัฐมนตรีที่มีคดีกบฏ และ 4 กลุ่มรัฐมนตรีที่ถือหุ้นสื่อ ว่า จะเป็นการดิสเครดิตรัฐบาลก่อนที่จะทำงานหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่สามารถบอกได้ ต้องรอฟังการอภิปรายในวันที่ 25 ก.ค. ก่อน เพราะการแบ่งกลุ่มเป็นการตั้งโจทย์แบ่งงานกันทำของฝ่ายค้านที่จะบริหารเวลาที่มีจำกัดให้ครบทุกประเด็น ซึ่งรัฐบาลก็มีการเตรียมรับมือไว้เช่นกัน หากมีการเข้าใจผิดก็ต้องชี้แจง รวมถึงต้องบริหารเวลาจัดลำดับความสำคัญในการชี้แจงตอบคำถาม รว��ถึง ส.ว. ต้องมีการเตรียมการเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลจะอภิปรายสิ่งที่จะทำต่อจากนี้ ว่านโยบายใดทำได้ทำไม่ได้ โดยจะปล่อยให้อภิปรายตามเวลาที่กำหนดทั้ง 2 ฝ่าย

นายวิษณุ ยืนยัน รัฐบาลไม่ได้กังวล เพราะเชื่อมั่นในองค์ 4 ว่าสามารถควบคุมการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประกอบด้วย​ 1. เกียรติยศศักดิ์ศรีของสมาชิกรัฐสถา 2.เชื่อมั่นในตัวนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา 3. เชื่อมั่นในกฎเกณฑ์กติกาซึ่งแม้จะยังไม่มีข้อบังคับฉบับใหม่ แต่สามารถอนุโลมบังคับใช้ได้ 4. การอภิปรายเป็นการเผยแพร่ให้สาธารณะรับรู้ทั้งประเทศ ไม่ใช่การอภิปรายเฉพาะสมาชิก จึงไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ดังนั้นผู้อภิปรายต้องรับผิดชอบกันเอง จึงเชื่อมั่นว่าจากเหตุผลทั้ง 4 ข้อ จะทำให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก ว่าอย่าทิ้งผม อย่าให้ผมต้องพูดคนเดียวนั้น ไม่ใช่เป็นการสะท้อนความกังวลและความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล แต่เป็นการพูดเปรียบเปรยทีเล่นทีจริงหลังการประชุมและฝากตัวกับรัฐมนตรี ซึ่งนายวิษณุ บอกด้วยว่า สิ่งที่นายกฯ พูด ตนเองไม่ได้ยิน แต่คนอื่นอาจได้ยิน


ไล่ "ธนาธร" ดูกฎหมายรัฐธรรมนูญม.49 เหน็บพูดอะไรให้ดูกาลเทศะ

นายวิษณุ ปฏิเสธการแสดงความเห็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถสั่งยุบพรรคได้ หากพบการกระทำความผิด ทำได้เพียงการตักเตือน โดยให้เหตุผลว่า อาจเป็นการชี้นำว่ารู้กันกับศาลรัฐธรรมนูญ แต่หากพูดผิดจะเป็นการเสียรังวัด จึงขอให้ไปอ่านกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ที่จะมีความชัดเจน 

ส่วนที่แกนนำพรรคอนาคตใหม่ เป็นนักกฎหมายจากการให้ข้อมูลบางอย่างจะทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ความจริงบางอย่างบางครั้งก็พูดทันที บางอย่างต้องรอเวลาที่เหมาะสม เป็นเรื่องของกาลเทศะ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเชื้อเชิญให้เกิดการเผชิญหน้าตอบโต้ไม่มีที่สิ้นสุด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :