ไม่พบผลการค้นหา
อัยการสั่งฟ้อง 2 สำนวน 'เพนกวิน อานนท์ สมยศ หมอลำแบงค์' คดีชุมนุมสนามหลวง 19-20 ก.ย. 63 และคดี Mob Fest 14 พ.ย. 63 ซึ่งมีเพนกวินเป็นผู้ถูกกล่าวคนเดียว ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว

11.00 น. พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 นัดฟังคำสั่งในคดีการชุมนุม #19กันยาทวงคืนอำนาจราษฎร ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 19 -20 ก.ย. 2563 ที่ท้องสนามหลวง และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งในส่วนของ อานนท์ นำภา, พริษฐ์ ชิวารักษ์, สมยศ พฤกษาเกษมสุข และปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ “หมอลำแบงค์” อัยการระบุว่าจะมีคำสั่งฟ้องคดีทั้งสี่คนต่อศาลอาญาทันที

นอกจากนี้ในส่วนของพริษฐ์ พนักงานอัยการในคดี Mob Fest หรือ #ม็อบ14พฤศจิกา ซึ่งจัดขึ้นบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและบนถนนราชดำเนิน เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2563 ได้แจ้งด้วยว่า จะสั่งฟ้องคดีนี้ของพริษฐ์ต่อศาลอาญาเช่นกัน

ต่อมา 14.00 น. ประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงชี้แจงการสั่งฟ้องคดีต่อผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ราย คดีมี 2 สำนวน สำนวนแรกคือ คดี Mob Fest มีผู้ต้องหารายเดียว คือพริษฐ์ ถูกฟ้องในข้อหาหมิ่นกษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 , ข้อหายุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 และข้อหาชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

อีกสำนวนหนึ่งคือ คดีชุมนุม 19-20 ก.ย. 2563 อัยการสั่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหา 4 คนคือ อานนท์, พริษฐ์, สมยศ และปติวัฒน์ ตามข้อหา ม.112, ม.116, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ม.215, ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, กีดขวางทางสาธารณะ, ร่วมกันกีดขวางการจราจร, ตั้งวางวัตถุบนถนนอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย, ทำลายโบราณสถานฯ, ทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันโฆษณาเครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต รวม 11 ข้อหา พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสี่ทุกข้อหา

ส่วนที่ทางผู้ต้องหายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมนั้น ประยุทธ กล่าวว่า พนักงานอัยการพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า พยานที่จะให้สอบเพิ่มเติมไม่มีผลเปลี่ยนแปลงความเห็นและคำสั่ง เนื่องจากในสำนวนมีพยานหลักฐานทำนองเดียวกันเพียงพออยู่แล้ว ไม่ดำเนินการตามหนังสือร้องขอความเป็นธรรม หลังจากนี้ทางพนักงานอัยการจะนำผู้ต้องหาทั้ง 4 ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญา จากนั้นศาลจะพิจารณาว่าจะขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างพิจารณาคดีหรือไม่

นรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า คดีนี้ถูกดำเนินการอย่างรวดเร็วแม้ผู้ถูกกล่าวหาเพิ่งถูกส่งตัวให้กับอัยการไม่ถึง 10 วัน ซึ่งผู้ต้องหาต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนพยานเพิ่มเติม และอยู่ระหว่าการประสาน แต่กลับถูกเร่งรัดให้มีการฟ้องคดี ผู้ถูกกล่าวหาจึงได้ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการขอให้สั่งสอบสวนพยานฝ่ายผู้ต้องหาเพิ่มเติม แต่พนักงานอัยการก็แจ้งว่าหนังสือขอความเป็นธรรม ไม่มีเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงคำสั่งฟ้อง และยืนยันจะยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในวันนี้

ต่อมามีรายงานว่า ทนายความจำเลยและนายประกันกำลังยื่นขอประกันตัวผู้ถูกกล่่าวทั้ง 4 คน โดยยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวคนละ 200,000 บาท เมื่อเวลา 15.45 น. ขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของศาลว่า จะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่

ล่าสุดเวลา 18.00 น. นรเศรษฐ์ เปิดเผยว่า ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้กล่าวหาทั้ง 4 คน และทุกคนจะถูกส่งตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

ข้อมูลจากศูนย์ทนายความระบุว่า ทั้งสองคดีนี้ถือเป็นคดี ม. 112 ที่เกิดขึ้นภายหลังการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 เป็นต้นมา ที่ถูกสั่งฟ้องต่อศาล นับเริ่มมีการนำข้อกล่าวหานี้กลับมาใช้กล่าวหาดำเนินคดีต่อนักศึกษาและประชาชน ตั้งแต่ช่วยปลายเดือน พ.ย. 2563 เป็นต้นมา

ข้อมูลอ้างอิง

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน