นายสมคิ�� จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังนำนายหลี่ ซี สมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีนและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลกวางตุ้ง เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยว่า ยืนยันว่าจีนไม่เคยถามเกี่ยวกับเรื่องการเมืองของไทย ไม่ว่าการเมืองไทยเป็นอย่างไรจีนเป็นมิตรและยืนข้างไทยเสมอ อย่างไรก็ตามเมื่อเราได้นายกรัฐมนตรีคนเดิม ก็จะมีความต่อเนื่องของความแน่นแฟ้นความสัมพันธ์และความต่อเนื่องเชิงนโยบาย
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ฝากความระลึกถึงไปยัง ประธานาธิบดีจีนและภริยา พร้อมฝากให้ดูแลนักลงทุนไทยในจีนอีกด้วย ส่วนหน้าตาของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นนั้น เรื่องการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เป็นบทบาทหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีโดยตรง ทั้งนี้พรรคการเมืองต้องเสนอชื่อบุคลากรที่สมควรร่วมคณะรัฐมนตรีให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ก็จะดูว่าทิศทางข้างหน้าเป็นอย่างไรและเลือกบุคคลที่ดีที่สุดมาทำงาน
นายสมคิด เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะเชิญทุกคนที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงนโยบายร่วมกัน ซึ่งประเทศต้องขับเคลื่อน ดังนั้นเป็นหน้าที่ของทุกพรรคที่จะส่งคนดีให้นายกรัฐมนตรีเลือกสรร ส่วนกรณีกระแสข่าวการจับจองเก้าอี้รัฐมนตรีที่ยังไม่ลงตัวในขณะนี้ อย่างที่ได้บอกไปว่าทุกพรรคต้องคัดสรรบุคลากรให้นายกฯ ได้คัดกรองอย่างดีที่สุด เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ส่วนเรื่องอื่นมองเป็นธรรมชาติของการเมืองอยู่แล้วก่อนมีคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้เชื่อว่าบ้านเมืองต้องไปได้ อยากให้มองในแง่ดี เห็นได้จากขณะนี้ทั้งจีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯและทุกประเทศมาประเทศไทยหมด ดังนั้นต้องแสดงให้เห็นว่าเรามีศักยภาพ
ส่วนขณะนี้ยังมีความวุ่นวายและถกเถียงกันเรื่องเก้าอี้และตำแหน่งของแต่ละพรรค นายสมคิด กล่าวว่า เห็นหน้าตาของตนหรือไม่ว่าสดชื่น เพราะไม่ได้อ่านข่าว ถ้าอ่านมากก็ไม่ค่อยสดชื่น ซึ่งประเทศไทยกำลังเข้าสู่สิ่งที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากให้สามัคคีกันไว้ และเชื่อว่านายกฯจะฟอร์มครม.อย่างดีที่สุด และเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองมุ่งดีต่อประเทศ อย่างไรก็ตามการตั้งคณะรัฐมนตรีจะลงตัวเร็วหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่ที่นายกรัฐมนตรี แต่ตนเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และควรเอาคนหนุ่มสาวเข้ามาทำงานให้มากขึ้น ส่วนผู้ใหญ่ที่อายุมากก็ควรมาช่วยเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งแล้วแต่บุคคล เพราะบางคนอายุมากแต่มีประสบการณ์ที่ดี อีกทั้งขึ้นอยู่กับสุขภาพด้วย
อย่างไรก็ตามตนอยู่มาสองสมัยรวมแล้ว 10 ปีพอดี ถือว่าได้รับใช้บ้านเมืองมาพอสมควรแล้ว จึงไม่ได้หวงอะไรเลย หากจะอยู่ก็ต้องดูว่าทำอะไรให้กับบ้านเมืองได้หรือไม่ สุขภาพทรุดโทรมทุกวัน ผอมลงและตัวเล็กกว่าภรรยาแล้ว ส่วนตนจะอยู่ต่อหรือไม่นั้น ไม่ทราบขึ้นอยู่ที่นายกรัฐมนตรี
ส่วนกระแสข่าวว่า มีสัดส่วนหรือโควต้ารัฐมนตรีในส่วนของตนเอง นายสมคิด กล่าวว่า อยากฟังไว้ ว่าตนเป็นคนไม่มีโควต้า ตนมาทำงานแต่ละครั้ง ตนไม่ได้รับใช้ใคร แต่มาทำงานให้บ้านเมือง และการที่ผมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ในครั้งนี้ เพราะผมมองว่าท่านเป็นคนที่ช่วยดูแลประเทศไทยได้เท่านั้นเอง ทุกคนที่เข้ามาต้องดูแลประเทศได้ รวมถึงนักการเมืองทุกคนที่เข้ามา ก็ต้องทำเพื่อบ้านเมืองทั้งนั้น ถ้ามาแล้วทำงานกันไม่ได้ประเทศมันก็จะลำบาก ถ้าเราคิดแบบนี้ประเทศเดินไปข้างหน้าต่างก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันทั้งนั้น ดังนั้นเดี๋ยวก็ดีกันเอง ไม่ได้มีอะไร อย่าไปอ่านมากและอย่าไปลงข่าวมาก
สุดท้ายเมื่อถามว่า ตอนนี้คาดหวังอะไรมากที่สุด นายสมคิด กล่าวเพียงสั้นๆ อย่างอารมณ์ดีว่า ได้เลี้ยงหลานนานๆ