ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (31มี.ค.62) ที่จังหวัดเชียงใหม่สภาพอากาศดีขึ้นอย่างน่าแปลกใจจน บางพื้นที่อยู่ในระดับสีส้มเนื่องจากมีกระแสลมพัดผ่านพัดพาหมอกควันออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ล่าสุดคืนที่ผ่านมากระแสลมพัดพาหมอกควันกลับมาสะสมในอากาศอีกครั้ง ขณะเดียวกันเกิดไฟป่าในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จนเจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้ง ไฟป่า อุทยาน ทหาร และชาวบ้านเข้าดับไฟป่าอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ ทั้งเรื่องของความแห้งแล้งอากาศที่ร้อน เชื้อเพลิงจากใบไม้กิ่งไม้แห้งที่สะสม รวมทั้งเรื่องของกระแสลมทำให้ยิ่งเกิดไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว
ล่าสุดจากข้อมูลของดาวเทียมจีสด้า ตรวจพบจุดความร้อน Hotspot ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ที่เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจคือ มีมากถึงจำนวน 3,088 จุด ณ วันที่ 1 เม.ย.62 เวลา 02.00 จังหวัดแม่ฮ่องสอนพบหนักมากที่สุด จำนวน 981 จุด รองลงมาเป็นจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 615 จุด จังหวัดเชียงราย จำนวน 370 จุด จังหวัดลำปาง จำนวน 302 จุด จังหวัดน่าน จำนวน 219 จุด จังหวัดแพร่จำนวน 214 จุด จังหวัดตาก จำนวน 211 จุด จังหวัดพะเยาจำนวน 116 จุด และ จังหวัดลำพูน จำนวน 60 จุด
ทั้งนี้ยังไม่นับรวมในพื้นที่ของประเทศพม่าที่อยู่โดยรอบพื้นที่ภาคเหนือของไทยที่หนักกว่าบ้านเราหลายเท่าตัว เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หมอกควันยังลอยวนเวียนอยู่ในพื้นที่
อย่างไรก็ตามการรายงานค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีอานุภาคต่ำกว่า 2.5 ไมครอน มีหลายหน่วยงานที่มีข้อมูลแบบรายชั่วโมงหรือเรียลไทม์แตกต่างกัน อย่างเช่นเช้านี้ จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ เมื่อเวลา 08.00 น. ค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีอนุภาคต่ำกว่า 2.5 ไมครอน หรือค่า PM2.5 มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก อ.เมือง วัดได้ 128 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดได้ 85 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
จากข้อมูลของ เว็บไซต์ www.airvisual.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์วัดคุณภาพอากาศของทั่วโลก พบว่าจากการเปรียบเทียบดัชนีคุณภาพอากาศหรือค่า US AQI จากหัวเมืองใหญ่จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกพบว่าค่ามลพิษในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 09.00 น. ค่ามลพิษในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่พุ่งสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่ในระดับผลกระทบหนักที่สุดกับร่างกายมนุษย์ ซึ่งดัชนีคุณภาพอาาศของจังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 293 US AQI ส่วนอันดับ 2 เป็นของเมือง Astana , Kazakhstan วัดได้ 176 US AQI
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ รายงานว่า พื้นที่ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 1-2 เมษายนตั้งแต่ช่วงค่ำเป็นต้นไป จะมีมวลอากาศเย็นจากจีนลงมาปะทะกับหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อน ซึ่งในช่วงดังกล่าวจะทำให้เกิดพายุฤดูร้อน ในลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และพายุลูกเห็บได้ในพื้นที่ ซึ่งสภาพอากาศแปรปรวนนี้เอง ก็จะลุ้นว่าจะส่งผลให้สถานการณ์วิกฤติหมอกควันภาคเหนือจะได้บรรเทาลงได้ มากน้อยเพียงใด
ขณะเดียวกันในวันพรุ่งนี้(2เม.ย.62) เวลา 09.00 น. พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ และในช่วงบ่ายจะเดินทางกลับมาประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :