บ่ายของวันที่ 2 ธ.ค. 2563 จะเป็นวันชี้ชะตาอนาคตของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะอยู่หรือไป เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ พล.อ.ประยุทธ์พักบ้านพักทหารหลังจากเกษียณอายุราชการพร้อมครอบครัวนานกว่า 5 ปี อีกทั้งยังไม่ได้ชำระค่าน้ำ - ไฟ
หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีความผิดตามที่ถูกฟ้องร้องจริง หลังจากนั้นอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
‘วอยซ์’ สรุปให้ดูดังต่อไปนี้
แต่คณะรัฐมนตรีดังกล่าวยังทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ โดยรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 169 ได้กำหนดข้อห้ามสำหรับรัฐบาลรักษาการ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ เช่น
ส่วนใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปนั้น ต้องรอรัฐสภาลงมติเลือกนายกฯ จากบัญชีผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองต่างๆ ที่เหลืออยู่ 5 คนจาก 3 พรรคการเมืองใหญ่ คือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, ชัยเกษม นิติสิริ, ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จากพรรคเพื่อไทย และอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ ส.ว. ยังสามารถเลือกนายกฯ ได้เช่นเดิม เพราะในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญปี 2560 ระบุว่า ส.ว. ร่วมกันเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในระหว่าง 5 ปีแรก
หากศาลฯ ตัดสินว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความผิดและต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แล้วมีผู้นำประเด็นการกระทำดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเข้าข่าย “ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม” ไปยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อชี้มูลความผิด เรื่องก็จะถูกส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาต่อไป
ซึ่งสาระสำคัญของมาตรฐานจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 219 มีดังต่อไปนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :