ไม่พบผลการค้นหา
วิกฤตหลายด้านที่เกิดขึ้นทั่วโลก เป็นบททดสอบประสิทธิภาพของรัฐบาลหลายประเทศ แต่กลุ่มธุรกิจเพื่อสังคมและองค์กรสากลหลายแห่งไม่อาจรอให้รัฐบาลลงมือดำเนินการเพียงฝ่ายเดียว จึงต้องผนึกกำลังกันเพื่อรับมือและหาทางแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น

แม้ว่าการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการคุณภาพชีวิตของคนในสังคมจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาล แต่กลุ่มธุรกิจเพื่อสังคมในหลายประเทศได้ร่วมมือกันขับเคลื่อนประเด็นด้านมนุษยธรรมโดยรอพึ่งรัฐบาล เพราะหลายครั้งมีตัวอย่างบ่งชี้ชัดเจนว่า การรอกลไกภาครัฐตามปกติอาจทำให้ความช่วยเหลือไม่ทันต่อเหตุการณ์

ความร่วมมือระหว่างกลุ่มธุรกิจเพื่อสังคมกับหน่วยงานภาครัฐไม่ใช่เรื่องใหม่ เช่น กรณี 'ผู้ลี้ภัย' ซึ่งถือเป็นปัญหาร่วมในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งยังมีการขยายความร่วมมือระหว่างองค์กรสากลกับธุรกิจเพื่อสังคม จนนำไปสู่การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็วขึ้น เพราะช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศที่เคยให้งบประมาณด้านมนุษยธรรม เริ่มปรับลดเม็ดเงินช่วยเหลือ ด้วยเหตุผลด้านเศรษฐกิจและความผันผวนทางการเมือง องค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งจึงต้องหาพันธมิตรที่เป็นกลุ่มธุรกิจมาร่วมทำงานในประเด็นต่างๆ  

ตัวอย่างที่น่าสนใจ ได้แก่ ความร่วมมือระหว่างสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ 'ยูเอ็นเอชซีอาร์' กับ 'อีเกีย' ผู้ผลิตและออกแบบเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ของสวีเดน ซึ่งออกแบบเชลเตอร์ หรือที่พักชั่วคราวสำหรับผู้ลี้ภัย โดยมีพื้นที่กว้างขวางพอจะรองรับคนได้ทั้งครอบครัว

นอกจากนี้ เชลเตอร์ผู้ลี้ภัยที่อีเกียออกแบบให้กับยูเอ็นเอชซีอาร์ก็ได้รับรางวัลด้านการออกแบบที่กรุงลอนดอนของอังกฤษเมื่อปี 2016 อีกด้วย เพราะเป็นการออกแบบที่มีจุดแข็งชัดเจนจากอีเกีย ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่คนทั่วไปสามารถนำไปประกอบเองได้ง่าย และบรรจุลงในหีบห่อขนาดเล็ก ทำให้ขนย้ายได้อย่างสะดวกง่ายดายกว่าเฟอร์นิเจอร์แบบอื่นๆ

@UNHCR_VARAVUT THANUTHAMMANONT (22).jpg
  • ที่พักพิงชั่วคราวที่ออกแบบและผลิตโดยอีเกีย/@UNHCR_VARAVUT THANUTHAMMANONT

ส่วนกรณีของประเทศไทย ล่าสุด ยูเอ็นเอชซีอาร์ประเทศไทยได้ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจเพื่อสังคม LIFEiS (ไลฟ์อีส) ซึ่งเป็นเครือข่ายบุคลากรในแวดวงความคิดสร้างสรรค์ ทั้งนักดนตรี นักออกแบบ ศิลปิน และอาสาสมัครต่างๆ ที่รวมตัวกันจัดกิจกรรมระดมทุนช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในวันที่ 9 พฤศจิกายน จนถึงเดือนธันวาคมนี้ และเงินที่ได้จะนำไปสนับสนุนงบประมาณของยูเอ็นเอชซีอาร์ใน 134 ประเทศทั่วโลกด้วย

นภ พรชำนิ ซึ่งเป็นที่รู้จักโด่งดังในฐานะนักร้องนำวง P.O.P ผันตัวมาเป็นประธานบริหาร LIFEiS เปิดเผยกับ 'วอยซ์ออนไลน์' ว่า การช่วยเหลือผู้ที่มีความทุกข์ร้อนกว่าเรา ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ ไม่ควรมีเรื่องของเส้นพรมแดน เชื้อชาติ ภาษา มาเกี่ยวข้อง ทั้งยังต้องส่งพลังบวกไปสู่คนที่มีความทุกข์ร้อนกว่า ทำให้ LIFEiS เสนอเป็นตัวกลางในการเชื่อมผู้ที่เก่งกาจในแวดวงต่างๆ เพื่อจัดงานระดมทุนช่วยเหลือยูเอ็นเอชซีอาร์ประเทศไทย

"ครั้งนี้เรามองเห็นว่า งานนี้น่าจะเกี่ยวกับ art & culture เพราะฉะนั้นเราก็จะเดินทางไปขอความช่วยเหลือกับคนที่อยู่ในพาร์ตดีไซเนอร์ พาร์ตของสื่อ อยู่ในพาร์ตของนักร้องนักแต่งเพลง รวมไปถึงพาร์ตของการฉายหนัง ผมก็เลยคิดว่า Lido Connect คือพาร์ตเนอร์ที่น่าสนใจ เป็นตัวหลักเรื่องสถานที่จัดงาน...และก็จะมีองค์กรอื่นๆ อย่างเช่น DUCTStore องค์กรสำคัญของนักดีไซเนอร์มาร่วมด้วย...เพราะผมเชื่อว่าทีมงานดักท์สโตร์จะสามารถเปลี่ยนถ่ายความช่วยเหลือครั้งนี้สู่ความเป็นสากลได้"

"อีกทีมหนึ่งคือทีมคีย์สโตน สตูดิโอ ทีมนี้จะทำงานที่เกี่ยวข้องกับ installation ต่างๆ เกี่ยวกับ lighting design การทำแพลตฟอร์มดีเจ ปาร์ตี้ต่างๆ ภายใต้ขอบเขตของ No boundaries for sharing (การแบ่งปันที่ไร้พรมแดน) ส่วนสุดท้ายก็คือส่วนของผมเอง ก็คือความเป็นศิลปินนักร้องนักแต่งเพลง ผมก็เชื่อมโยงกับเพื่อนๆ ที่อยู่กับเบเกอรี่มิวสิกมาตั้งแต่เริ่มต้น P.O.P. โยคีเพลย์บอย, 2 days ago kids และน้องๆ โบ-จอยซ์ Triumphs Kingdom ที่จะเป็นโฮสต์ในการทำคอนเสิร์ตเพื่อการกุศลในครั้งนี้"

นภ พรชำนิ ร่วมงานระดมทุนช่วยเหลือผู้ลี้ภัย UNHCR
  • นภ พรชำนิ CEO LIFEiS Group

"หน้าที่ของ LIFEiS Group ก็คือการรวบรวม ระดมความช่วยเหลือให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ creative เรื่องของความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ นอกจากเรื่องเงินอย่างเดียว เรื่องของไอเดีย เวลา อาสาสมัคร ผมเชื่อว่าตรงนี้แหละจะเป็นองค์รวมที่เราจะสามารถเปลี่ยนถ่ายไปเป็นความช่วยเหลืออย่างอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ UNHCR จะหยิบยื่นไปให้พวกเขาได้อย่างดี"

ขณะเดียวกัน สิ่งที่ยูเอ็นเอชซีอาร์ประเทศไทยตั้งเป้าหมายจากการร่วมมือกับเครือข่ายธุรกิจและอาสาสมัครเพื่อสังคมในครั้งนี้ คือ การสื่อสารไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ตระหนักถึงปัญหาผู้ลี้ภัย โดย 'อรุณี อัชชะกุลวิสุทธิ์' ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชน UNHCR ย้ำกับ 'วอยซ์ออนไลน์' ว่า ปัญหาผู้ลี้ภัยที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ คือวิกฤตระดับโลก

"เราทำงานร่วมกับภาคเอกชนหลายๆ ที่ วิธีการที่เราได้ทำงานกับ LIFEiS ข้อที่หนึ่ง คือ เราได้เห็น mission หรือวัตถุประสงค์ของเขาในการที่จะจัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผู้ลี้ภัย และที่สำคัญคือใช้ความคิดสร้างสรรค์ ใช้ความเป็นเชิงบวกเข้ามา เพื่อให้เกิดไลฟ์สไตล์ง่ายๆ ที่ทุกคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ด้วย นั่นคือเป้าหมายของ UNHCR ในการที่คนไทยได้หันมาสนใจสถานการณ์เกี่ยวกับผู้ลี้ภัยมากขึ้น เพราะว่าตอนนี้ทั้งโลกก็ถือว่าเป็นวิกฤตหนึ่งที่ทั่วโลกต้องเจอ"

"เงินบริจาคที่เราได้รับจาก LIFE iS Beautiful ทั้งหมด เราจะส่งมอบไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยทั่วโลก ซึ่งใช้ชีวิตยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องช่วยชีวิตเขาโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะเลือกกลุ่มคนที่เปราะบางจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว คนพิการหรือผู้สูงอายุหรือเด็ก การให้ความช่วยเหลือจะเป็นเรื่องพื้นฐานเลย ไม่ว่าจะเป็นที่พักพิง อาหาร ยารักษาโรค หรือการรักษาพยาบาล เป็นต้น"

เมื่อสอบถามว่าในช่วงที่ผ่านมา การเลือกพาร์ตเนอร์ หรือหุ้นส่วนในการทำกิจกรรมต่างๆ ของยูเอ็นเอชซีอาร์ประจำประเทศไทย ตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่น้อย ทางยูเอ็นเอชซีอาร์ยืนยันว่าการคัดเลือกพาร์ตเนอร์ดำเนินไปอย่างเป็นระบบ และมีคณะกรรมการที่พิจารณาอย่างชัดเจน แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่ยูเอ็นเอชซีอาร์ก็ตระหนักและรู้สึกขอบคุณที่หลายภาคส่วนในสังคมไทยตื่นตัวเรื่องผู้ลี้ภัยกันมากขึ้น

อรุณี อัชชะกุลวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชน UNHCR
  • อรุณี อัชชะกุลวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชน UNHCR

"ทาง UNHCR ต้องขอขอบคุณทางพาร์ตเนอร์ทุกๆ ฝ่ายที่ต้องการจะช่วยเหลือ สร้างการรับรู้เกี่ยวกับผู้ลี้ภัย เรียกว่าเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ลี้ภัยมากขึ้น ทางเราก็ได้ทำงาน มีคณะกรรมการที่ชัดเจนในการที่จะคัดเลือกพาร์ตเนอร์ที่จะเข้ามา ตอนนี้ในบ้านเราเองรู้สึกว่ามีการตื่นตัวมากขึ้นในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ซึ่งเราคิดว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีมากๆ เลยค่ะ เพราะว่าประเทศไทยก็จะได้พัฒนาสูงขึ้นในการที่จะให้คนของเราได้หันมามีส่วนร่วมในประเด็นระดับโลกมากขึ้น" ผอ.ฝ่ายส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชน UNHCR กล่าวทิ้งท้าย

ปัจจุบัน ยูเอ็นเอชซีอาร์ประเทศไทยรับผิดชอบดูแลผู้ลี้ภัยราว 99,000 คนที่อยู่ในค่ายพักพิงตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ทั้งยังมีผู้แสวงหาที่ลี้ภัยซึ่งอยู่ในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทยอีกจำนวนหนึ่งด้วย

ส่วนงานกิจกรรมระดมทุน LIFEiS BEAUTiFUL - No boundaries for sharing จะจัดขึ้นในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 9 – 10 พฤศจิกายน 2562 ที่ 'ลิโด้ คอนเน็คท์' โดยจะมีตลาดฟลีมาร์เก็ต ขายอาหารและสินค้า งานสตรีทอาร์ต การแสดงทางศิลปะ คอนเสิร์ตการกุศล ดีเจเปิดแผ่น การตั้งแสดงบ้านพักพิงชั่วคราวรุ่นใหม่ของผู้ลี้ภัย และการแสดงศิลปะโดยศิลปินสตรีทอาร์ตรุ่นใหม่ กบ กอร์ บอร์ วอร์ (พงษ์ภาสกร กุลถิรธรรม) NEV3R (มงคล รัตนภักดี) รวมถึงนักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่ รักกิจ (รักกิจ ควรหาเวช), ยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล, An Officer Dies (กอล์ฟ-ฐิติภูมิ เพ็ชรสังข์ฆาต), Benzilla (เบนซ์-ปริญญา พิเชษฐศิริพร) และ Happy Pomme Studio (ปอม-ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง)

ส่วนคอนเสิร์ตเพื่อการกุศลจะจัดขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน โดยศิลปินนักร้องที่ร่วมงานนี้ นำโดย นภ พรชำนิ พร้อมแขกรับเชิญอย่าง YKPB, 2 Days Ago Kids และ Triumphs Kingdom และสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ticketmelon.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: