ทรัมป์ชื่นชมปูตินว่า “เก่งกาจฉลาดล้ำ” และได้ทำการเลือกวิธีที่แสนจะ “ยอดอัจฉริยะ” ในการประกาศรับรองเอกราชให้แก่โดเนตสค์และลูฮันสค์ พื้นที่ของยูเครนที่มีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่มีรัสเซียให้การหนุนหลัง ตลอดจนการส่งกองทัพของรัสเซียเข้าไปยังดินแดนทางตะวันออกของยูเครนด้วยข้ออ้างการพิทักษ์สันติภาพ
การให้สัมภาษณ์ของทรัมป์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นในรายการ The Clay Travis & Buck Sexton Show ที่ได้เชิญทรัมป์ไปร่วมวงสนทนา โดยทรัมป์ระบุว่า เขาเองได้เห็นการยกระดับสถานการณ์ในยูเครน และ “ผมร้องออกมาเลยว่า ‘นี่มันสุดแสนจะอัจฉริยะ’ ปูตินประกาศเหนือพื้นที่จำนวนมากของยูเครน… ปูตินประกาศให้มันเป็นเอกราช โอ้ มันสุดยอดมาก”
ทรัมป์ชื่นชมปูตินว่าได้เลือกวิธีการที่ “แสนฉลาด” ด้วยการ “ส่งกองกำลังพิทักษ์สันติภาพที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา” เข้าไปยังดินแดนดังกล่าว โดยในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่ทรัมป์ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ จนกระทั้งแพ้การเลือกตั้งในสมัยที่สองของตน เขาได้ชื่นชมปูตินมาโดยตลอด ท่ามกลางกระแสความสงสัยที่ทรัมป์มีกับปูติน รวมถึงข้อกล่าวหาว่ารัสเซียอาจทำการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ จนทำให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในปี 2559
ทรัมป์กล่าวชื่นชมปูตินในขณะที่ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย และพยายามหาทางออกในการหยุดยั้งการเกิดสงครามใหญ่ในยุโรป อย่างไรก็ดี ทรัมป์พยายามหาทุกหนทางในการโจมตีชื่อเสียงของไบเดนมาโดยตลอดนับตั้งแต่ตนแพ้การเลือกตั้งเมื่อปี 2563 ทั้งนี้ ทรัมป์กลับระบุว่า ถ้าหากเขายังคงเป็นประธานาธิบดีอยู่ สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในยูเครนตอนนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นได้แน่นอน
“นี่คือชายที่เก่งกาจ… ผมรู้จักเขาดี” ทรัมป์ระบุในรายการถึงปูติน “รู้จักกันดีมาก ดีมากๆ อย่างไรก็ดี มันจะไม่เกิดเรื่องเหล่านี้กับเรา ถ้าเกิดผมยังอยู่ในตำแหน่ง ไม่แม้แต่จะต้องนึกถึง มันไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้ แต่นี่คือผู้ชายที่ออกมาบอกว่า คุณรู้ใช่ไหม ‘ผมจะประกาศดินแดนขนาดใหญ่ของยูเครนให้เป็นอิสระ เขาใช้คำว่า ‘เอกราช’ ‘และเรากำลังจะออกไป และเราจะเข้าไป และเราจะช่วยพิทักษ์สันติภาพ’ คุณต้องพูดเลยว่านี่มันเป็นเรื่องที่แสนฉลาด” ทรัมป์กล่าวชมปูติน
ในตอนนี้ รัสเซียภายใต้การนำของปูตินได้ประกาศการส่งกองกำลังของตนเพื่อเข้าปฏิบัติการพิเศษทางทหารในพื้นที่ดอนเนสของยูเครนแล้ว โดยปูตินได้กล่าวอ้างว่า การส่งกองกำลังของรัสเซียเข้าไปยังโดเนตสค์และลูฮันสค์เป็นไปเพื่อ “การรักษาสันติภาพ” จากการถูก “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” โดย “ระบอบเคียฟ” และจากการปกครองของ “นาซียูเครน” อย่างไรก็ดี ทางการรัสเซียยังคงไม่มีหลักฐานยืนยันใดๆ ต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว
ยูเครนได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วเป็นเวลา 30 วัน ในขณะที่มีรายงานว่าระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศของยูเครนถูกกำจัดทั้งหมดหลังจากถูกรัสเซียโจมตีทางอากาศ ทั้งนี้ โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนกล่าวกับประชาชนของตนเองว่า ยูเครนจะไม่ยอมเสียดินแดนของตนเองให้กับใครทั้งสิ้น และยืนยันว่ารัฐบาลยังคงควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ ก่อนจะขอร้องให้ประชาชนชาวรัสเซียใช้เหตุผล และห้ามไม่ให้ผู้นำของตนเองบุกยึดยูเครน
ที่มา:
https://edition.cnn.com/2022/02/23/politics/donald-trump-vladimir-putin-joe-biden/index.html