วันที่ 14 ต.ค.2563 ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี ภายหลังพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ได้นำตัวผู้ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎรจำนวน 19 คน มายื่นคำร้องผัดฟ้องฝากขังครั้งที่ 1 เป็นเวลา 6 วัน เนื่องจากควบคุมตัวจะครบ 48 ชั่วโมงแล้วยังไม่สามารถยื่นฟ้องได้
โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ ภายหลังถูกจับกุมพร้อม จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน เมื่อวันที่ 13 ต.ค. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน
ผู้ต้องหา 19 ราย ประกอบด้วย
ทั้งนี้ ผู้ต้องหา 19 คน ได้ยื่นคำคัดค้านการปัดฟ้องฝากขัง เพราะเห็นว่าการชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศ โดยคดีไม่มีเหตุจะฝากขัง เพราะอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
เวลาประมาณ 20.00 น. ศาลจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ผัดฟ้องฝากขังครั้งที่ 1 สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 19 คนได้เป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-19 ต.ค.นี้ เนื่องจากเห็นว่า ตามคำร้องของพนักงานสอบสวนอ้างว่า ต้องรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและสอบพยานเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนพยานดังกล่าวได้โดยชอบ กรณีมีเหตุจำเป็นไม่สามารถยื่นฟ้องได้ทันภายใน 48 ชั่วโมงเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 19 คนพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาหลายข้อกล่าวหา
ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ผู้ต้องหาทั้ง 19 คน มีพฤติการณ์ส่อไปในทางที่ก่อให้เกิดความรุนแรง และมีพฤติการณ์ต่อสู้เจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ในลักษณะเป็นกลุ่มชนหมู่มาก อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะก่อความวุ่นวายในที่ชุมนุมและยากต่อการควบคุมสถานการณ์อันอาจเกิดอันตรายต่อทรัพย์สินของผู้อื่นและประชาชน หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในช่วงเวลานี้เชื่อว่าจะไปร่วมก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองอีก จึงให้ยกคำร้อง
ข่าวสดรายงานว่า ผู้ชุมนุมเจอเอาผิดทั้งหมด 10 ข้อกล่าวหา ดังนี้
1.ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ประมวลกฎหมายอาญา
2.ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกันในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน มาตรา 9/ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของหรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด ประมวลกฎหมายอาญา
4.ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งใดส่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร พ.ร.บ.จราจราทางบก
5.ร่วมกัน ตั้ง วาง หรือกองวัตถุใดๆ บนถนน พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535
6.ร่วมกันขูด กระเทาะ ขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ปรากฏด้วยประการใดๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือรูปรอยใดๆ บนถนน พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535
7.ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ประมวลกฎหมายอาญา
8.ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ประมวลกฎหมายอาญา
9.ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร ประมวลกฎหมายอาญา
10.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ร.บ.ควบคุมโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: