ปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ปรากฏตัวที่บริเวณเวทีชุมนุมข้างทำเนียบรัฐบาล พร้อมให้ให้กำลังใจ และแสดงความชื่นชมแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร 2563 ระบุว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นบทพิสูจน์สำคัญ ว่าแกนนำที่เป็นนักเรียนนิสิตนักศึกษา เยาวชนคนหนุ่มสาวมีวุฒิภาวะเป็นอย่างมากซึ่งหลายคนคาดการณ์ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า จะนำไปสู่ความรุนแรง แต่วันนี้ถึงได้พิสูจน์แล้วว่าได้วางแผนเป็นอย่างดีในจุดใดที่เสี่ยง ก็หลีกเลี่ยงเป็นอย่างดี ทำให้บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยดี ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า การทำหน้าที่ของตำรวจเมื่อวานนี้เป็นชนวนหนึ่ง ที่ทำให้วันนี้มีความลุ่มร้อนมากขึ้น นายปิยะบุตรยังตั้งข้อสังเกตถึงการตั้งป้อมสกัดของเจ้าหน้าที่ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.การชุมนุม เลือกใช้วิธีการจับตัวไปก่อนแล้วค่อยไปกฎหมายว่ามีข้อหาอะไรบ้าง ถือเป็นความผิดซึ่งหน้า โดยวัตถุประสงค์เพื่อต้องการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพื่อไม่ให้พูดหรือแสดงออกโดยใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือ เป็นการใช้กฎหมายที่บิดผัน 

ขณะที่วันนี้ การที่ศาล ไม่อนุญาตให้ประกันตัว ไผ่ ดาวดิน จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา แสดงให้เห็นชัดเจนว่า วิธีคิดการใช้กระบวนการยุติธรรม ที่ตั้งโจทย์ไว้แล้ว เพื่อไม่ต้องการให้ทั้ง 21 คน เป็นแกนนำการชุมนุม ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าตนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่มีมานานแล้วตั้งแต่แฟลตม็อบ ส่วนตัวคิดว่าเป็นการดูถูก อนาคตของประเทศ ชุมนุมในวันนี้ไปไกลมากกว่าที่ตนและนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะอยู่เบื้องหลังได้ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงก็ทราบดี

"วันนี้อย่าหลอกและโกหกตัวเองว่าพวกผมอยู่เบื้องหลังเพื่อปลอบประโลมใจพวกท่านว่าเป็นม็อบที่ไม่บริสุทธิ์ มีนักการเมืองสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง อยากให้มาพิสูจน์ความเป็นจริงมากกว่า ว่าอนาคตของประเทศเขาเรียกร้องอะไร แทนที่จะมานั่งจับผิด และถือว่าเป็นความคิดที่ไม่สร้างสรรค์เพียงพอ" นายปิยบุตรกล่าว

ปิยบุตร ฝากไปถึงผู้มีอำนาจในการจับกุม 21 แกนนำว่า อยากให้ทำใจให้กว้างกว้าง ถ้ามันใจว่ารัฐบาลเข้มแข็ง อำนาจรัฐอยู่ในมือของคุณ แถมยังดูถูกนิสิตนักศึกษาแล้วจะกลัวอะไรกับคนไม่กี่คนที่มายืนพูดอย่างบริสุทธิ์ใจ เมื่อแสดงออกเสร็จก็กลับแล้วนัดชุมนุมกันใหม่ เพราะหากยิ่งทำเช่นนี้เหตุการณ์จะยิ่งบานปลาย จึงอยากให้เข้าใจความรู้สึกของประชาชน เพราะถนนทุกเส้นมาจากภาษีประชาชนเป็นพื้นที่สาธารณะ ถนนแห่งประชาธิปไตยทุกคนมีสิทธิ์ที่จะใช้สอย 

"ฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ด้วยความจริงใจอยู่มาหกปีแล้ว ต้องยอมรับว่าท่านมาจากการยึดอำนาจ การที่จะสืบทอดอำนาจต่อ คงจากไม่ใช่ พอได้แล้ว ไม่รู้ว่าท่านจะอยู่ไปอีกนานเพื่ออะไร ผมไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร แต่ถ้าท่านออกไปก่อน อย่างน้อยสถานการณ์ก็จะดีขึ้น ถ้านั่งขวางอยู่แบบนี้คิดเสมอว่าแบล็คดี แต่จะประจันหน้า ขอให้เสียสละออกไปก่อน" ปิยบุตร ระบุ

'จิราพร' ติงจับ 'ไผ่ ดาวดิน' พร้อมพวกไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ด้าน จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานติดตามการชุมนุมของกลุ่มนิสิตนักศึกษา กล่าวว่า วันนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านตั้งจุดรับเรื่องร้องเรียนอยู่บริเวณถนนราชดำเนิน แต่ถูก กทม. แจ้งรื้อถอนไป ตน สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะทำงาน พร้อมคณะจึงเดินติดตามการชุมนุมอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามภาพรวมวันนี้เป็นการชุมนุมโดยสงบเรียบร้อยดี พร้อมกันนี้ยังกล่าวถึงข้อสังเกตที่หลายคนมองว่าม็อบนี้มีการจัดตั้ง แต่ตนขอยืนยันว่าจากเท่าที่เห็นทุกคนต่างคนต่างมา และที่มีข้อสังเกตว่าพรรคเพื่อไทยเกณฑ์คนเสื้อแกงจากต่างจังหวัดมาหรือไม่ ตนขอยืนยันว่าไม่จริง หลายคนจับกลุ่มกันมาเองด้วยหัวใจประชาธิปไตย หรือจะเห็นว่าการชุมนุมนี้ไม่มีการตั้งเวทีใหญ่ที่ชัดเจนมีแกนนำชัด แต่เป็นการตั้งเวทีย่อยๆ รวมกลุ่มกันเองย่อยของแต่ละกลุ่มที่มาด้วยกัน ไม่ใช่ม็อบจัดตั้ง ขณะที่พรรคเพื่อไทยเองอยู่ในฐานะที่เคียงข้างประชาชน สังเกตการณ์ เป็นหูเป็นตาดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุม 

ส่วนกรณีที่ศาลไม่ให้ประกันตัวไผ่ ดาวดิน และฝากขังแกนนำที่ถูกจับกุมที่ถนนราชดำเนินเมื่อวานนี้อีก 19 คน ตนมองว่าการจับกุมดังกล่าวไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เข้าไปจับกุมโดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาก่อน จับกุมไปแล้วค่อยมาแจ้งข้อกล่าวหาทีหลัง ซึ่งการชุมนุมเมื่อวานนี้ก็ไม่ได้มีอาวุธ เป็นการชุมนุมโดยสงบ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน และจำเป็นต้องให้สิทธิประกันตัวออกมาสู้คดีเพราะไม่ใช่คดีร้ายแรง 

จิราพร ระบุว่าตนอยากฝากถึงผู้มีอำนาจว่าสถานการณ์ของประเทศเดินมาถึงตอนนี้เป็นผลพวงมาจากการรัฐประหาร 2557 ที่กดทับประชาชนทำให้เขาไม่ได้รับสิทธิเสรีภาพอย่างเท่าเทียมในหลายเรื่องทำให้เขามาชุมนุมกันในวันนี้ การแสดงออกของประชาชนนี้รัฐบาลต้องไม่เพิกเฉยแล้ว เพราะยิ่งต่อเนื่องคนยิ่งมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าคนอยากได้ประชาธิปไตย อยากได้รัฐธรรมนูญที่มีส่วนร่วมของประชาชน แผ่ขยายออกไป รัฐบาลต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ ตอบสนองประชาชนก่อนเหตุการณ์จะลุกลามบานปลาย พล.อ.ประยุทธ์ มีที่มาไม่ชอบธรรม มีกฎหมายที่อุ้มให้เป็นรัฐบาล และบริหารบ้านเมืองผิดพลาด ทำเศรษฐกิจเสียหายและโยนความผิดให้โควิด และถ้าปล่อยให้บริหารประเทศต่อไปก็จะยิ่งมีปัญหาตามมาทั้งราคาข้าวที่ตกต่ำ การชุมนุมก็อาจจะขยายแนวร่วมออกไปเยอะมาก ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ตระหนักได้ว่าตนเองเป็นศูนย์รวมของปัญหาก็ควรถอยออกมา เพื่อให้ผู้ที่เหมาะสมเข้ามาบริหารประเทศ

จิราพรยังฝากถึงกลุ่มผู้ชุมนุมว่า การชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ให้รักษาการชุมนุมโดยสันตินี้ต่อไป พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคยังเคียงข้างเป็นหูเป็นตา และหากมีการจับกุมคุมขังก็พร้อมเข้าไปประกันตัว