ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เเละ ศุภณัฐ บุญสด ทนายความจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน หลังศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว จตุภัทร์ บุญรักษา หรือ ‘ไผ่ ดาวดิน’ แกนนำเยาวชนปลดแอก ที่โดนจับในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา รวม 12 ข้อหา
พิธา กล่าวว่า รู้สึกเเปลกใจที่ผลลัพธ์ออกมา เพราะคิดว่าศาลน่าจะอนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) ได้อนุญาตให้ตนและ ส.ส.ของพรรคก้าวไกลเข้าไปที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 โดยเจ้าหน้าที่มีคำสั่งอนุญาติให้ตนเเละ ส.ส.อีก 2 คน นำหลักประกันเพื่อที่จะสามารถประกันได้ในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับปากว่าหากประกันในชั้นนี้ไม่ได้ จะอนุญาตให้ประกันในชั้นศาล เเต่ปรากฏว่าไม่คืบหน้า และมีคำสั่งออกมาว่าจะนำไปฝากขังยังศาลอาญา ศาลแขวง และศาลเยาวชน โดยในช่วงเช้าตนจึงมอบหมายให้ ส.ส.ของพรรค ดำเนินการเอาหลักทรัพย์เเละตำเเหน่งเดินทางมายื่นขอประกันตัวชั่วคราว ในส่วนของ ไผ่ ดาวดิน นั้น ส.ส.เบญจา แสงจันทร์ ได้เป็นผู้เดินทางมายื่นขอประกันตัวในกรณีนี้
"การชุมนุมได้หลีกเลี่ยงการปะทะมาโดยตลอด เป็นการชุมนุมเชิงสร้างสรรค์เเละเคารพกฎหมาย ส่วนตัวที่ผมรู้จักไผ่ พฤติการณ์ของเขาไม่ได้คุกคาม และไม่หลบหนีอยู่แล้ว จึงแปลกใจที่การตัดสินคดีออกมาเช่นนี้” พิธา กล่าว
ขณะที่ ศุภณัฐ บุญสด ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า เหตุที่ศาลมีดุลยพินิจไม่ให้ประกันตัวชั่วคราว เนื่องจากศาลให้ความเห็นว่าพฤติการณ์ของ จตุภัทร บุญรักษา มีพฤติการณ์ในการก่อความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง หากศาลปล่อยตัวไปเกรงจะก่อเหตุซ้ำอีก จึงไม่อนุญาตให้ประกันตัว
ด้าน จุตรภัทร์ ได้กล่าวขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ขึ้นรถไปฝากขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า ขอให้มวลชนสู้ต่อไป อย่าได้ถอย เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวทิ้งท้ายว่า จะเพิ่มหลักทรัพย์และใช้ตำเเหน่ง ส.ส. เพื่อใช้ประกันตัว จตุภัทร์ อย่างถึงที่สุด เเละพรรคก้าวไกลพร้อมยืนเคียงข้างประชาชนในทุกคดี หากถูกดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่คุกคามผู้เห็นต่างทางการเมือง