ไม่พบผลการค้นหา
พรรคไทยศรีวิไลย์ ยืนยันลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้ง 11 คน พร้อมฝากถึงกลุ่ม 16 พรรคเล็ก ลงมติเพื่อหาทางออกให้ประชาชน ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

โดย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงของการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ว่า ในตอนที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในการอภิปรายว่า ไม่มีส.ส.ในสภาเคยดำรงตำแหน่งนายกฯ เหมือนท่านนั้นไม่จริง เพราะ ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็เคยดำรงตำแหน่งนายกฯ และมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่เหมือน พล.อ. ประยุทธ์ ที่มาจากการรัฐประหาร และมาจากส.ว. 249 คน

มงคลกิตติ์ อภิปรายเพิ่มเติมถึง ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กำกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ฟ้องต่อกรมที่ดินให้เพิกถอนที่ดินเขากระโดงทั้งหมด ศักดิ์สยามจะย้ายครอบครัวออกจากที่ดินตรงนั้นหรือไม่ แม้ไม่มีคำสั่งศาล เพราะควรมีสปิริตของนักการเมืองและเป็นตัวอย่างที่ดี

ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ และพล.อ.ประยุทธ์ มงคลกิตติ์ไม่เห็นด้วยที่จะมีการออกกฎหมายให้ต่างชาติสามารถเข้ามาซื้อที่ดินในไทยได้ รวมถึง รัฐมนตรีคนอื่นๆ อย่าง จุติ ที่ตนมองว่าเป็นปมด้อยของคนพิษณุโลก, สันติ ไม่สามารถชี้แจงเรื่องท่อส่งก๊าซได้, สุชาติ ที่แม้ว่าจะทำดีหลายเรื่องแต่ก็มีสิ่งเคลือบแครงสงสัยทำให้มนิพรรคไม่สามารถไว้วางใจได้ และชัยวุฒิ ที่ปล่อยปะละเลยให้มีเว็บพนัน โดยมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนได้ส่งไปแจ้ง 30เว็บ แต่ยังไม่มีการปิดซักเว็บ

มงคลกิตติ์ กล่าวว่าตนได้ทำหน้าที่อภิปรายไม่วางใจมา 3ครั้งแล้ว ได้ทำหน้าที่แทนประชาชนอย่างเต็มที่ หากรัฐบาลทำดี ตนก็อยากชม แต่ที่ผ่านมายังหาจุดดีไม่ได้ รวมถึงย้ำคำท้าให้พล.อ.ประยุทธ์ ไปดูหนังกลางแปลงกับตน โดยไม่ต้องเอาพลทหารไปด้วย ซึ่ง มงคลกิตติ์ มั่นใจว่าตนสามารถดูหนังจนจบได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่แน่ใจความปลอดภัยของพล.อ.ประยุทธ์ เพราะท่านน่าจะรู้ว่าประชาชนจะคิดยังไงกับท่าน

สุดท้าย มงคลกิตติ์ ฝากถึงเพื่อนส.ส.ที่อยากมีอนาคตทางการเมือง ให้คำนึงถึงการทำหน้าที่แทนประชาชน แยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม แยกแยะในส่วนที่จะช่วยให้ประชาชนหลุดพ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยตนอยากให้เพื่อส.ส. ที่เหลือ ไม่ว่าจะกลุ่ม16 พรรคเศรษฐกิจไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ยังลังเล ให้ตัดสินใจท่ามกลางผลประโยชน์ประชาชน เพื่อรักษาการเปลี่ยนแปลงผ่านระบบรัฐสภา ประชาชนจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนรัฐบาลผ่านอำนาจโดยตรงของพวกเขาเอง โดยมงคลกิตติ์เชื่อว่ารัฐบาลนี้ไปต่อได้ไม่เกิน 20วันแน่หากผลการลงมติพรุ่งนี้ไม่สามารถเปลี่ยนรัฐบาลได้ พร้อมเตือนอาจเกิดเหตุการณ์แบบรัฐบาลศรีรังกา


ไร้ประสิทธิภาพ ไร้คุณธรรม ไร้ยางอาย

ด้าน สรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงมติพรรคเกี่ยวกับการลงมติอภิปรายไม่ว่างใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่า พรรคไทยศรีวิไลย์มีมติในที่ประชุมว่าจะโหวตไม่ไว้ว่างใจรัฐมนตรีทั้ง 11คน เนื่องจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้ง 11 คน มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชนแล้วว่า ในการบริหารราชการแผ่นดินที่ผ่านมา แสดงถึงความไร้ประสิทธิภาพ ไร้คุณธรรม ไร้ยางอาย ไร้ความละอายเกรงกลัวต่อบาป ไร้จิตสำนึก ขาดวุฒิภาวะความเป็นผู้นำ บริหารแผ่นดินด้วยความรู้สึกส่วนตัว ไม่ใช้สมองและปัญญา เอาแต่พวกพ้อง มีพฤติกรรมปล่อยปะละเลยมให้บุคลใกล้ตัวแสวงหาผลประโยชน์

โดย สรกฤช ได้ชี้แจงเป็นรายบุคคล เริ่มจาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ มา 8 ปี 2 เดือน 1วัน ตั้งแต่มีการทำรัฐประหาร แทนที่จะดีขึ้น กลับทำให้ประชาชนเดือดร้อนทุกย่อมหญ้า เก่งแต่สร้างหนี้โดยไม่คิดจะไม่ใช้หนี้ ปัญหาที่ควรแก้ไข ก็ไม่แก้ไข เช่น ปัญหาปากท้องของประชาชน ค่าครองชีพ ค่าน้ำมันที่สูงขึ้น ของแพง ไข่แพง พล.อ. ประยุทธ์ ก็ไล่ประชาชนไปเลี้ยงไก่ หากน้ำมันราคาไม่ลด พล.อ. ประยุทธ์จะให้ประชาชนไปขุดหาน้ำมันเองหรือไม่

รวมถึงจากเหตุการณ์เครื่องบินรบ MiG-29 ของเพื่อนบ้านล่วงล้ำน่านฟ้าไทย สรกฤช ตั้งคำถามต่อ พล.อ. ประยุทธ์ อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของอาชญกร เพราะอาจจะเป็นการเปิดช่องทางโจมตีชาวกะเหรี่ยงหรือไม่

นอกจากนี้ สรกฤช ยังชี้แจงถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่ถูอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกว่า จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไม่สามารถแก้ไขราคาสินค้าแพง ทำให้ประชาชนเดือดร้อน, อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกนโยบายกัญชาโดยไม่รอบคอบ ส่งผลกระทบแก่ประชาชน,

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องในการทำรัฐประหาร เพราะเป็นถึงรองหัวหน้า คสช. , ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปล่อยปละละเลยให้มีเว็ปการพนันออนไลน์เต็มประเทศ

โดย สรกฤช กล่าวในนามสมาชิกพรรคศรีวิไลย์ว่า ในนามพรรคไทยศรีวิไลย์จะไม่เห็นด้วยกับ ผู้แทนราษฎรที่จะยกมือไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ทั้ง 11 คน เพราะหน้าที่ ส.ส. เป็นตัวแทนและเป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชน ไม่ใช่เอาอำนาจจากประชาชนไปรับผลประโยชน์ส่วนตัว เพราะฉะนั้นแล้ว

ถ้าระบบรัฐสภาไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนได้โดยการลงมติในวันพรุ่งนี้ พรรคไทยศรีวิไลย์ยินดีที่จะขับเคลื่อนระบอบประชาธิปไตยโดยทางตรง เพื่อเรียกร้อง และใช้อำนาจอธิปไตยซึ่งเป็นของประชาชน ในฐานะประชาชนคนนึง ที่จะร่วมกระทำการทุกวิถีทางที่ชอบด้วยกฎหมายในการทำให้รัฐบาลชุดนี้หมดอำนาจไป